ภาพรวม ‘ตลาดชา’ ในประเทศไทยในปี 2566 มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2,174 ล้านบาท ซึ่งรวมชาหลายประเภททั้ง ชาเขียว, ชาสมุนไพร ไปจนถึง ชาออร์แกนิก แต่ถ้าพูดถึงตลาด ‘ชาไทย’ อย่างเดียว แบรนด์ที่ยังเป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาลในปัจจุบัน ก็คือ ‘ชาตรามือ’ ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 50%
‘แพรว-พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช’ กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ ได้กล่าวในฐานะทายาทรุ่น 3 ที่ดูแลกิจการร้านชาตรามือในปัจจุบันว่า วิวัฒนาการของ ‘การบริโภคชา’ ของคนไทยและทั่วโลกเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ตอนนี้คนหันมาดื่มชามากขึ้น และเปิดใจกับชาที่หลากหลาย ทั้งใบชาไทย, ชาเขียว หรือแม้แต่คอมบูฉะ ซึ่งทำมาจากชาดำ หรือชาเขียวส่วนใหญ่
[ คอลแล็ปเพื่อเติบโตตามเป้า ]
ชาตรามือ ได้ตั้งเป้าเติบโตในปีนี้อยู่ที่ 20% (จากเดิม 30% แต่ปรับลดเพราะภาวะเศรษฐกิจ) ซึ่งกลยุทธ์หลักที่จะใช้มในการทำให้ชาตรามือบรรลุเป้า ก็คือ การขยายสาขาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงการรักษาตำแหน่งเบอร์หนึ่งในตลาดชาไทยเอาไว้
ชาตรามือ ตั้งเป้าจะขยายร้านสาขาในประเทศให้ครบ 240-250 แห่ง จากตอนนี้ 220 แห่ง ขณะที่จำนวนสาขาในต่างประเทศอยากขยายที่ 130 สาขา จากปัจจุบันที่มี 124 สาขา
แพรว-พราวนรินทร์ กล่าวว่า ชาตรามือเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจคนหลายกลุ่ม และอยู่ในไทยมานาน 80 ปี การที่ชาตรามือได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ที่ชื่นชอบในความเป็นชาตรามือ และชาตรามือก็สนใจในสินค้าในร้านพาร์ทเนอร์ เป็นที่มาของงาน ฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี ที่เราเติบโตเคียงคู่สังคมไทย จึงเป็นที่มาของการจัดงาน “ChaTraMue Original Thai Tea Festival” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งจะมีระหว่างวันที่ 19-21 กันยายน 2568
[ 10 แบรนด์ที่ชาตรามือเลือก ]
ความตั้งใจของชาตรามือ คือ อยากให้ชาไทยเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม ดังนั้น 10 แบรนด์ที่ชาตรามือเลือกเข้ามาคอลแล็ป ก็จะเป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่ม จะมีทั้งเบเกอรี, บิงซู หรือ มาการอง ดังนี้
-
After You: ขนมปังเนยโสดชาไทย
-
Holiday Pastry: ชีสทาร์ตโมจิชาไทย
-
Kaew Boutique: ขนมชั้นชาไทย โรลมะพร้าวอ่อนสังขยาชาไทย และพุดดิ้งชาไทยมะพร้าวนมสด
-
Layers: Thai Tea Layer Cake
-
Moone: โรลเค้กชาไทย
-
Plantae: สลัชชี่โปรตีนชาไทย
-
Souri: มาการองชาไทย
-
Yole: Yogurt Shake Thai Tea
-
ถิงถิง: บัวลอยงาดำน้ำชาไทย และบิงซูชาไทย
-
น้ำเต้าหู้ปูปลา: ซอฟเสิร์ฟชาไทยงาดำ และน้ำเต้าหู้ชาไทย
ชาตรามือ เชื่อว่า การที่แต่ละแบรนด์พาร์ทเนอร์ซึ่งมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน มาร่วมกันสร้างสรรค์เมนูภายในงานนี้ น่าจะทำให้คนไทยและชาวต่างชาติที่อาจจะยังไม่เคยลองชาไทย หรือยังไม่เปิดใจกับชาไทย หันมาชอบมากขึ้น จากการที่ชาไทยเปลี่ยนรูปแบบไปไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม
อย่างไรก็ตาม ชาตรามือคาดหวังว่า หากกลุ่มคนที่ชื่นชอบชาไทยขยายตัวมากขึ้น และเข้าใจในรสชาติของชาไทยในสินค้าที่แตกต่างออกไป ก็อาจจะเห็นสินค้าของแบรนด์ต่างๆ ที่คอลแล็ปกับชาตรามือวางขายในร้านในอนาคต ไม่ใช่แค่ในงานนี้
ส่วนไลน์สินค้าของชาตรามือจากนี้และในอนาคตอันใกล้ ยังขอโฟกัสไปที่ ‘กลุ่มเครื่องดื่ม’ อย่างชาไทยคอมบูฉะกระป๋อง และการปั้นแบรนด์ CTM ซึ่งเป็น spacialty tea ซึ่งเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานที่ เซ็นทรัล พาร์ค แบงคอก
หากแพลนการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศของชาตรามือเป็นไปตามที่วางไว้ เป้ารายได้ 5,000 ล้านบาทภายในปี 2570 คงเป็นจริงได้ไม่ยาก จากรายได้ปี 2567 อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท










