‘ชัชชาติ’ ตอบปม ปลัด มท. มีคำสั่งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดสนับสนุนการจัดหาชุดลูกเสือ-เนตรนารี ให้ครอบครัวที่มีฐานะยากจน
จากกรณี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองประธานกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ มีคำสั่งให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด สนับสนุนการจัดหาชุดลูกเสือ-เนตรนารี ให้ครอบครัวที่มีฐานะยากจนขัดสน
ล่าสุด วันนี้ (28 มิ.ย. 2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีนี้ว่า ถ้าเป็นคำสั่งก็ต้องทำ ถ้าจะทำก็อย่าให้เป็นภาระประชาชน เดี๋ยวเราเป็นภาระให้ แต่ว่าถ้าเกิดให้เราหาก็ช่วยให้งบมาด้วย เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมก็พึ่งไปตัดชุดลูกเสือมา เพราะต้องไปงานชุมนุมลูกเสือ
เมื่อถามว่า กทม.มีสนับสนุนชุดนักเรียนให้หรือไม่ นายชัชาติกล่าวว่า เข้าใจว่าเรามีชุดฟรีอยู่แล้วตามความต้องการ แต่เรื่องชุดลูกเสือยังไม่มีรายละเอียด แต่น่าจะแพงกว่าชุดปกติ เพราะว่ามีองค์ประกอบเยอะ
เดี๋ยวดูว่าจะมีรูปแบบที่มันง่ายขึ้นไหม ชุดอาจจะแค่ส่วนหนึ่ง จริงๆ แล้วมันอยู่ที่การฝึกวินัยหรือว่าแนวคิดมากกว่า ฉะนั้นองค์ประกอบถ้ามันแพงก็อาจจะไม่จำเป็น ผมว่าเอาไปทำอะไรที่มีประโยชน์หรือเปล่า เดี๋ยวไปดูว่ามันจะปรับรูปแบบอย่างไรได้ ให้มันง่ายขึ้น หรือว่าต้องเป็นแบบนี้ คือต้องเป็นคำสั่งมา ถ้าต้องทำแบบนี้เราก็ต้องทำตาม เพราะเป็นนโยบายมา ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายคงต้องดูเรื่องงบประมาณ และอย่างที่บอกถ้าเป็นคำสั่งน่าจะมีงบประมาณมาให้เราด้วย
เมื่อถามว่าเป็นการโยนภาระมาให้ กทม.หรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า ไม่หรอกเพราะเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำอยู่แล้ว กระทรวงเขาสั่งมาเราก็ต้องทำเพราะว่า ถ้าให้กระทรวงจัดก็คงไม่ได้เพราะว่ากระทรวงก็ไม่ได้สัมผัสกับเด็ก เราเป็นผู้ดูแลโรงเรียนดังนั้นเราก็ต้องดูแล แต่ถ้ามีปัญหาอะไรคงต้องแจ้งกัน ถ้าหากว่างบไม่พอเราก็ต้องแจ้งกลับไป ถ้างบไม่มีเราก็ต้องพูดความจริง
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า แต่ตนเห็นด้วยที่ว่าอย่าให้เป็นภาระกับเด็กกับผู้ปกครอง จริงๆ แล้วไม่เฉพาะเด็กยากจน เด็กทุกคน ถ้าจะให้แต่งชุดลูกเสือแล้วมีค่าใช้จ่าย เราก็ต้องดูแลทุกคน ไม่ใช่เลือกดูแล เพราะปัจจุบันชุดฟรีเราก็ดูแลทุกคน อาหารฟรีเราก็ดูแลทุกคน ฉะนั้นไม่ใช่ว่าจะดูแลเฉพาะคนที่พ่อแม่ลำบาก ถ้าเป็นข้อกำหนดที่มีผลต่อการเรียน ถ้ากระทรวงมหาดไทยเห็นว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นเด็กทุกคนต้องใส่ชุดลูกเสือ ก็ควรจะดูแลเด็กทุกคนเท่าเทียมกัน
ส่วนกระแสที่ผู้ปกครองบางส่วนเสนอให้เหลือแค่ผ้าพันคอ นายชัชชาติกล่าวว่าคงต้องคุยเพราะสุดท้ายเราต้องเป็นตัวกลางไปคุยให้ว่าทางกระทรวงมองอย่างไร แต่เข้าใจว่าถ้าเขาสั่งมาเขาไม่ได้ถามความเห็นเรา คือสั่งก็ทำ แต่ถ้าถามความเห็น เราก็ชี้แจงไป เดี๋ยวดูว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าสุดท้ายจะหาทางออกได้











