งานแรกในตำแหน่งพ่อเมืองบนศาลาว่าการ กทม. อย่างเป็นทางการ ‘ชัชชาติ’ หารือตัวแทนบริษัทกรุงเทพธนาคม เดินหน้าเคลียร์ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว เผยเช้านี้ถึงศาลาว่าการกทม.ตั้งแต่ตี 4 และวิ่งออกกำลังรอบเสาชิงช้า
วันที่ 2 มิ.ย. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เชิญตัวแทนบริษัทกรุงเทพธนาคม หารือนานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อพิจารณารายละเอียดสัญญาการเดินรถและสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวรวมถึงการนำสายสื่อสารลงดิน
หลังการประชุมนายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียวคาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 1 เดือน การหารือกับกรุงเทพธนาคมในวันนี้ ทำให้เห็นสัญญาการเดินรถที่จะสิ้นสุดในปี 2585 ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดภาระหนี้สิน ต้องนำข้อมูลมาตรวจสอบว่าภาระหนี้สินเกิดจากอะไรและสัญญาได้รับการอนุมัติจากสภากทม.หรือไม่ ซึ่งขออย่าเอาหนี้สินมาเป็นตัวเร่งรัดการตัดสินใจเดินโครงการระยะยาว แม้ว่าจะมีดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
ทั้งนี้หากมีความจำเป็นที่กทม. ยังมีข้อบัญญัติในการกู้เงินที่จะนำมาชำระหนี้สินได้โดยเป็นข้อบัญญัติที่ต้องผ่านสภากทม. ก่อน และเป็นการกู้เงินจากรัฐจะได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเอกชนกู้ ซึ่งย้ำว่าต้องดูรายละเอียดให้รอบคอบก่อน
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนการขยายสัญญาสัมปทานที่จะหมดในปี 2572 นั้นยังไม่ได้มีการหารือเพราะยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องหลายส่วน ทั้งสำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร หรือ สจส. และสภากทม. เข้ามาพูดคุยข้อมูลและทบทวนการต่ออายุสัญญาโดยให้ สภากทม. ดูเนื้อหาอย่างละเอียดตามแนวทางปฏิบัติ เพราะสัญญาเดิมที่ค้างอยู่ในครม.ขณะนี้เกิดขึ้นจากการพิจารณาของคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นโดยใช้ ม.44 ทั้งนี้หากศึกษารายละเอียดเชื่อว่าจะมีจุดที่ทำให้สัญญาถูกลงได้ เพราะที่ผ่านมาไม่มีการใช้พรบ.ร่วมทุนเข้ามาแข่งขัน
นายชัชชาติ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงประเด็นที่จะทำราคาค่าโดยสารถูกลงในราคา 25 บาทว่า เป็นเป้าหมายที่ตั้งใจจะทำ และมีความเป็นไปได้ แต่ยอมรับว่ามีปัจจัยอื่นที่ควบคู่ไปด้วยเช่น โครงสร้างหนี้พื้นฐานที่จะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงกำไรและขาดทุน พร้อมมองว่าอีกหนึ่งแนวทางที่จะลดภาระหนี้สิน คืออาจจะเริ่มเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายทั้งสองส่วน เพราะปัจจุบันการให้บริการฟรีอาจจะไม่สมเหตุสมผล อาจจะส่งผลกระทบต่ออาชีพการให้บริการรถขนส่งสาธารณะที่จะขาดรายได้ ทั้งนี้ต้องดูความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นประชาชนและเอกชนด้วย
นายชัชชาติระบุว่า หลังจากได้ข้อสรุปจะต้องรายงานต่อ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยจะรีบสรุปข้อมูลเพื่อเข้าหารือให้เร็วที่สุดและคงยังไม่เข้าไปรายงานที่ประชุมครม. และย้ำว่า สิ่งที่ กทม. อยากทำมากที่สุด คือการเร่งคืนหนี้สินให้รัฐบาลให้เร็วที่สุดและอยากขอให้กทม.มาดูแลเรื่องการเดินรถเองเพราะถือเป็นสมบัติของเมือง
ส่วนการหารืออีกเรื่องประเด็นสายสื่อสารลงดิน นายชัชชาติ ระบุว่า ยังไม่มีความคืบหน้าเพราะขณะนี้มีปัญหาเรื่องการหาผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการ ที่มีสัญญาจ้าง 4 ฉบับ ส่วนกรอบวงเงินที่สูง 19,000 ล้านบาท นั้น ทางบริษัทชี้แจงว่าเพราะเป็นรูปแบบที่ไม่รู้ว่าจะเจออะไรหน้างาน จึงต้องเข้าไปศึกษารายละเอียดข้อมูล
ขณะที่เมื่อเช้าที่ผ่านมา มีหกลุ่มเหยื่อผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนยื่นหนังสือเสนอนโยบายสนับสนุนหมวกกันน็อกให้เด็กที่เดินทาง ด้วยรถจักรยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้ารถเข็นจตุจักรมายื่นเรื่องการโดนยกเลิกสัญญา โดนนายชัชชาติ ลงมารับหนังสือและเรื่องร้องเรียนด้วยตัวเอง










