ประสบการณ์ใหม่จากแบรนด์ต่างๆ ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวที่ดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ง่าย ดังนั้น กลยุทธ์แห่งยุคของธุรกิจที่ใช้กันมานานหนึ่งในหลายๆ เครื่องมือก็คือ การทำงานร่วมกัน หรือ collaboration
อย่างล่าสุด ‘ชาตรามือ’ กับ ‘แบรนด์(รังนก)’ จับมือกันสร้างเมนูใหม่เพื่อต้อนรับเทศกาลวันตรุษจีนโดยเฉพาะ ก็คือ ‘ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้รังนกแท้’ เชื่อว่าเป็นเมนูที่นักท่องเที่ยวคนจีนน่าจะชอบ และกลุ่มใหม่ก็น่าจะเปิดใจให้กับเครื่องดื่มของคนไทย นอกจากที่รู้จักกันดีอยู่แล้วอย่าง ‘ชาไทย’
โดยเมนูชาอู่หลงหอมหมื่นลี้รังนกแท้ จะวางขายระหว่างวันที่ 20 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 เท่านั้นในราคาพิเศษ แก้วละ 139 บาท (จากราคาเต็ม 195 บาท)

จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ระบุว่า สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ในช่วงปี 2567 มีจำนวนสะสมมากถึง 35,545,714 คน โดยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 6,733,162 คน
ถือว่าภาพรวมของภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งในวันตรุษจีนที่จะถึงนี้ประเมินว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวคนจีน หรือชาติอื่นที่เป็นเชื้อสายจีนเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น
‘นภิส ศศิวิมลกุล’ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ประเด็นเรื่องสุขภาพยังคงเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญ และตามความเชื่อศาสตร์ตะวันออก โดยเฉพาะความเชื่อจีน เชื่อกันว่ารังนกมีฤทธิ์ค่อนไปทางเย็น มีการใช้ดูแลสุขภาพและผิวพรรณมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ทั้งยังเป็นสิ่งที่คนจีนมีกำลังซื้อเลือกทานเพื่อเสริมกำลัง
“เหตุผลที่แบรนด์เลือกชาตรามือ เพราะเป็นเจ้าแรกๆ ของเมืองไทยที่มีชาไทยชั้นนำ ทั้งยังเป็นเครื่องดื่มที่คนจีนนิยมซื้อทานด้วย จึงคิดว่าเครื่องดื่มเมนูใหม่ก็น่าจะจับตลาดจีนได้ในช่วงเทศกาลใช้จ่ายของกลุ่มนี้”

ขณะที่มุมมองของทายาทธุรกิจชาตรามืออย่าง ‘พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิพย์ธารี จำกัด (ร้านชาตรามือ) กล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาตรามือสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าได้ ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ซึ่งชาพันธุ์อู่หลงที่คัดสรรมา เมื่อผสมกับดอกหอมหมื่นลี้ที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์จนเป็นชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ หลังจากที่ผสมกับเนื้อสัมผัสของรังนกแท้ จะยิ่งร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
เมนูพิเศษที่ว่ามานี้จะขายที่ร้านชาตรามือแค่ 39 สาขาทั่วประเทศ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ, คิง เพาเวอร์ รางน้ำ, สยามพารากอน, เยาวราช, ไอคอนสยาม, เทอร์มินอล21 พัทยา, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัลจันทบุรี, เซ็นทรัลภูเก็ต, เซ็นทรัลหาดใหญ่, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เดอะมอลล์โคราช เป็นต้น
ลองสังเกตจากแต่ละสาขาที่ชาตรามือวางขาย ส่วนใหญ่จะเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวคนจีนชอบไป และเลือกพักเวลาที่เข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งก็ถือเป็นการวางกลยุทธ์ในการขายอย่างหนึ่งที่หลายธุรกิจชอบทำ ก็คือ เลือกโมเดลหรือโลเคชั่นที่เรารู้จักลูกค้า และเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายที่สุด เพื่อลดอุปสรรคในการตัดสินใจซื้อของพวกเขา










