คนมักง่ายเอาสารเคมีใช้บ่มผลไม้ 12 ถุงปุ๋ยมาทิ้งในป่าร้างริมทาง เกิดปฏิกริยาทำไฟลุกไหม้ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง
วันที่ 21 ส.ค. 2562 เวลา 00.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.โอภาส คณะแพง รองสว.(สอบสวน) สน.บึงกุ่ม ได้รับแจ้งเหตุเกิดไฟไหม้บริเวณป่ารกร้าง ริมถนนประเสริฐมนูกิจขาออก ระหว่างซอย 45 – 47 เขตบึงกุ่ม จึงเดินทางมาตรวจสอบ และประสานรถดับเพลิง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ที่เกิดเหตุเป็นป่ารกร้างเนื้อที่กว่า10ไร่ พบกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่ง เจ้าหน้าที่ทำการดับเพลิง ระดมน้ำฉีดแต่ไฟไม่ดับ ปะทุขึ้นตลอด และมีควันส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งออกจากกองขยะ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นสารเคมี จึงฉีดน้ำเลี้ยงไว้แล้วระดมขนทรายมาดับพร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นสารแคลเซียมคาร์ไบน์ เป็นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมทำปฏิกิริยารุนแรงผลิตอะเซทิลีนและปล่อยความร้อน โดยสารนี้เป็นสารเคมีพื้นฐานที่สำคัญซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการผลิตก๊าซอะเซทิลีนและใช้ในการบ่มผลไม้ให้สุก
จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า มีพลเมืองดีแจ้งว่าพบเพลิงไหม้ตั้งแต่ช่วง 18.00 น.ที่ผ่านมาแล้ว เห็นควันสีขาวพวยพุ่ง เลยระดมกำลังมาดับ โดยจุดนี้เป็นที่ร้าง คนชอบนำขยะมาทิ้ง และคนรับซื้อของเก่ามาคัดแยกขยะเพื่อไปขายต่อ ก่อนเกิดเหตุ 1-2 วัน มีคนนำถุงปุ๋ยมัดปากถุงแล้วเอามาทิ้งไว้12ถุง วางไว้หลังฟุตบาทของจุดเกิดเหตุ ซึ่งวันนี้มีฝนตกน่าจะมีส่วนทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น
นางสาวศศิชา ทับทิม ผอ.เขตบึงกุ่มกล่าวว่า สารเคมีดังกล่าวมีขนาด 25 กิโลกรัม แบ่งใส่ถุงปุ๋ย 12 ถุง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ใช้การฝังกลบแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ใช้การเฝ้าระวังเพื่อป้องกันว่าจะมีการปะทุอีกหรือไม่ เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับประชาชน แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงกับประชาชนแล้วเพื่อดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยสารเคมีชิ้นนี้จะทำปฏิกิริยากับความชื้นซึ่งวันนี้ฝนตก จึงเกิดเหตุขึ้น สำหรับจุดเกิดเหตุเป็นที่รกร้างคนแอบมาทิ้งขยะ เขตได้เอากระถางต้นไม้มาวางกั้นไว้แล้ว ถ้าตรวจสอบพื้นที่แล้วว่าปลอดภัยก็จะนำกำลังมาดูแลตรวจสอบพื้นที่ตรงนี้ สำหรับผู้ที่ลักลอบทิ้งนั้นมีความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
