แบงก์ชาติจีนอัดฉีด 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หวังบรรเทาข้อกังวลปัญหาสภาพคล่องตึงตัวจากวิกฤติ Evergrande และดีมานด์เงินสดในช่วงเทศกาล
วันที่ 17 ก.ย. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลจีนได้อัดฉีดกระแสเงินสดระยะสั้นเข้าสู่ระบบธนาคารการเงิน เพื่อเป็นสัญญาณถึงว่ารัฐบาลกำลังบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับดีมานด์เงินสดในไตรมาสสุดท้าย และวิกฤติหนี้ของกลุ่มบริษัท China Evergrande
โดยธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ PBOC ได้อัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 9 หมื่นล้านหยวน หรือราว 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าสู่ระบบการเงิน ผ่านการทำ Repo หรือข้อตกลงการซื้อคืน 7 วัน และ 14 วัน ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ.
โดยในวันนี้นับเป็นวันแรกของเดือนนี้ ที่รัฐบาลเพิ่มสภาพคล่องระยะสั้นมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านหยวนเข้าสู่ระบบธนาคารภายในวันเดียว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากวิกฤติของกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ China Evergrande ยักษ์อสังหาริมทรัพย์อันดับ 2 ของจีนที่ส่อแววผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างวิตกกังวลถึงสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อในประเทศจีน
นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันมาจากความต้องการกระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีที่จะมีเทศกาลวันหยุดยาวที่จะมาถึงในช่วงเดือน ต.ค. ขณะที่ธนาคารลังเลที่จะปล่อยกู้ในช่วงสิ้นไตรมาส
“การหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะสภาพคล่องตึงตัว เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ PBOC ทำให้ต้องออกมาตรการเช่นนั้น” นักเศรษฐศาสตร์จาก Societe Generale SA ระบุ
และว่า “การล่มสลายของ China Evergrande แบบที่เกิดขึ้นกับ Lehman ในสหรัฐฯ นั้นไม่ใช่สิ่งที่เรากังวล แต่น่าจะเป็นการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อและรุนแรงนั้นมากกว่า”
ทั้งนี้ วิกฤติของ Evergrande เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว โดยมาตรการควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยและการเดินทาง รวมไปถึงธุรกิจอสังหาฯ เองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย
โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา จีนรายงานว่ายอดค้าปลีกในเดือน ส.ค. ชะลอตัวลงต่ำกว่าคาด ประกอบกับการเติบโตของการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรก็ลดลง
ส่งผลให้ PBOC ต้องหาวิธีสร้างสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยที่ต้องมั่นใจว่าการอัดฉีดกระแสเงินสดจะไม่ทำให้เกิดภาวะฟองสบู่
“สถานการณ์ของ Evergrande และผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในวงกว้าง มีผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโตของจีน มากกว่าการปราบปรามด้านกฎระเบียบอื่นๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ PBOC จะเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมผลกระทบในตลาดการเงิน” Alvin Tan หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในเอเชีย แห่ง Royal Bank of Canada ในฮ่องกงกล่าว
ทั้งนี้ Ftich Ratings เตือนว่า หาก Evergrande ผิดนัดชำระหนี้ จะส่งผลให้อุตสาหกรรมจำนวนมากมีความเสี่ยงด้านเครดิต โดยธนาคารเล็กและนักพัฒนาที่ยังอยู่ในสภาวะเปราะบางจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
และด้วยหนี้สินกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ และสภาพคล่องของ Evergrande ที่อยู่ในสภาวะตึงเครียด ก็ทำให้เกิดความกังวลต่อผลกระทบวงกว้างในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ
ที่มา : https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-09-17/china-boosts-cash-addition-to-soothe-nerves-amid-evergrande-saga?sref=LQZclhPm










