ราคาเมล็ดกาแฟโรบัสต้าในตลาดฟิวเจอร์ที่ลอนดอนแตะระดับสูงสุดใหม่ ที่ 4,500 ดอลลาร์ต่อตัน ทำให้ราคาเมล็ดพันธุ์กาแฟโรบัสต้าสูงขึ้นไปอีกกว่าช่วงปลายปีที่แล้วมาก
เมล็ดกาแฟโรบัสต้าถูกใช้เป็นวัตถุดิบในการทำกาแฟสำเร็จรูปและเอสเพรสโซ ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โดยเวียดนามประเทศผู้ปลูกและผลิตเมล็ดกาแฟรายใหญ่อันดับสองของโลกและเป็นผู้ผลิตโรบัสต้ารายใหญ่ที่สุด กำลังเผชิญสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งจากเอลนีโญที่ทำให้การปลูกเมล็ดกาแฟได้รับผลกระทบจากอากาศที่ร้อนเกินไปและน้ำมีไม่เพียงพอ กาแฟจึงเติบโตได้ไม่ดี
นอกจากนี้ความต้องการเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกากำลังเปลี่ยนสายพันธุ์จากอาราบิก้าระดับไฮเอนด์ที่ส่วนใหญ่ผลิตในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ มาเป็นโรบัสต้าที่มีราคาไม่แพงนักเพื่อมาเฉลี่ยกับต้นทุนการขนส่งและเชื้อเพลิงที่ิเพิ่มขึ้น
ขณะที่ความนิยมบริโภคกาแฟโรบัสต้าก็เพิ่มขึ้นด้วยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน
สภาพตอนนี้คือ เมล็ดกาแฟโรบัสต้าจึงมีน้อยลงในตลาดทั้งความต้องการสูงขึ้น แต่การผลิตผลิตได้น้อยลง
และอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ผลิตได้น้อยลงคือ ตอนนี้เกษตรกรในเวียดนามหันมาสนใจปลูกทุเรียนมากกว่าแทน เพราะได้รับความนิยมในตลาดส่งออกไปจีน โดยการส่งออกทุเรียนของเวียดนามไปจีนมีมูลค่าสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว และยังคาดหวังได้ถึงแนวโน้มของมูลค่าที่จะเติบโตมากขึ้น
เกษตรกรเวียดนามเริ่มเปลี่ยนพืชที่ปลูกตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 ไม่ว่าจะเป็นบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงก็ทยอยเปลี่ยนจากการปลูกขนุนและข้าวไปเป็นทุเรียน เช่นเดียวกับเกษตรกรในที่ราบสูงตอนกลางก็มาปลูกทุเรียนบนพื้นที่ที่เคยเป็นไร่กาแฟและพริกไทย
เมื่อการปลูกทุเรียนได้ราคาดีกว่าทำให้สามารถรับมือกับต้นทุนทั้งปุ๋ยและต้นทุนค่าพลังงานที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นได้ นั่นยิ่งทำให้เกษตรกรก็เลือกจะลดการลงทุนในการปลูกกาแฟลงไปด้วย
หนึ่งในธุรกิจส่งออกกาแฟเวียดนาม Quang Minh Coffee Trading บอกว่า ผลผลิตเมล็ดกาแฟตอนนี้ที่ได้จริงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเกษตรกรผู้ปลูกลงทุนน้อยลงในไร่กาแฟ เพราะไปเน้นที่การปลูกทุเรียน และผลไม้อื่นๆ ที่ทำกำไรได้
ขณะที่สถานการณ์ตอนนี้เมื่อเกษตรกรปรับพื้นที่ไปปลูกทุเรียนทำให้พื้นที่ปลูกกาแฟลดลง ส่งผลให้การผลิตเมล็ดกาแฟโรบัสต้าลดลงไปด้วย ขณะที่ทางการเวียดนามก็เคร่งครัดต่อการบริหารจัดการเรื่องทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้นทำให้การหาพื้นที่ใหม่ในการปลูกเมล็ดกาแฟทำได้ยากขึ้น
นอกจากเวียดนามพื้นที่เพาะปลูกเมล็ดกาแฟในอีกหลายประเทศก็จะลดลงเช่นกันด้วยปัญหาสภาพอากาศ
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเหตุผลให้ปริมาณเมล็ดกาแฟโรบัสต้าในตลาดจะมีน้อยลง เมื่อผลผลิตลดลงส่งผลให้ราคาเมล็ดกาแฟสูงขึ้น นำมาสู่ความกังวลถึงกาแฟที่ไม่เพียงพอต่อการบริโภคด้วยนั่นเอง










