วันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่าอยากจะให้ผู้รู้ด้านกฎหมายมาแนะนำการดำเนินการคดีทางกฎหมายกับกลุ่มอ้างตัวเป็นผู้รับมอบอำนาจมาจับลิขสิทธิ์ หลังจากที่มีผู้ถูกล่อซื้อและต้องยอมจ่ายเงิน 30,000-70,000 บาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี 9 ราย
น.ส.กาญจนา แก้วฉลาด อายุ 26 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนมีอาชีพทำนา จะใช้เวลาว่างถักสินค้าเป็นงานฝีมือ เช่น กระเป๋า ปลอกหมอน และอื่นๆ แล้วแต่ลูกค้าทางออนไลน์จะสั่ง ต่อมาได้มีคนทักเฟซบุ๊กมาอยากได้กระเป๋าใส่แก้วน้ำ ตนเองบอกว่ามีเพียง 2 ใบ แต่ลูกค้าต้องการลายโดราเอม่อน 20 ใบ ตกลงราคาใบละ 129 บาท จากราคา 139 บาท ตนดีใจตั้งใจถักทั้งวันทั้งคืนแต่ทำได้เพียง 15 ใบ ต้องรีบเอาไปส่งเพราะลูกค้าเร่งเอาสินค้า
วันที่ 22 มิ.ย.ลูกค้าได้นัดส่งของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัว จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงานออกมาแสดงตัวเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ แล้วพาไปคุยกันที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เรียกค่าเสียหาย 70,000 บาท ก่อนจะเจรจาต่อรองเหลือ 30,000 บาท
“เขาบอกว่าเขาได้รับมอบลิขสิทธิ์โดราเอม่อนเจ้าเดียวของประเทศไทย แล้วก็มีตำรวจมาด้วย 3 คน เขาบอกขั้นต่ำต้องเสีย 7 หมื่น ไกล่เกลี่ยเขาให้อยู่ 5 หมื่น ตกใจมากหนูไม่มีตังค์ซักบาทเลยตอนไป เพราะดีใจจะได้เงินที่ขายได้ ต้องได้เงิน พัน- สองพัน พาลูกไปด้วย ลูก 4 ขวบไม่รู้เรื่องต้องไปวิ่งเล่นอยู่บนโรงพัก ไกล่เกลี่ยกว่าจะเสร็จ 2 ทุ่มต้องจ่าย 3 หมื่น ตั้งแต่บ่าย 3 จำได้เลยว่าคนหนวดๆ มานั่งอธิบายเรื่องลิขสิทธิ์”
น.ส.กาญจนา ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากมีข่าวกรณีกระทงรูปการ์ตูนว่าอาจเป็นการกรรโชกทรัพย์ออกมา ทำให้ตนลำดับเหตุการณ์ที่ตนโดแล้ว รู้สึกเจ็บใจมาก โดยเฉพาะเงินค่าปรับที่จ่ายไป 30,000 บาท แถมยังยึดกระเป๋าตนไปอีกเท่านั้นยังเรียกเอาเงินค่ามัดจำซึ่งเป็นเงินที่โอนมาก่อนจำนวน 400 บาท กลับไปอีก
ส่วน น.ส.ยุวดี ถาวุฒิ อายุ 28 ปี เล่าว่า ถูกกลุ่มนี้หลอกสั่งทำเสื้อกันฝนตราโดราเอม่อน เมื่อถึงเวลานัดก็ออกมาแสดงตัวแล้วจับกุมและสรุปที่ 30,000 บาท เป็นค่าไกล่เกลี่ยเช่นเดียวกันยอมรับว่าวันถูกจับลำบากมาก ก่อนจะออกไปส่งของบอกแม่ให้ดูแลลูกวัย 2 เดือน ไว้รอก่อนจะไปส่งของแล้วจะซื้อของมาฝาก แต่กลับโดนจับลูกไม่ได้กินนมต้องวิ่งวุ่นหาเงิน พากันอุ้มลูกมาให้นมถึงสถานีตำรวจ
อยากจะร้องขอให้ผู้รู้กฎหมายใจบุญ มาแนะนำการดำเนินคดีกับกลุ่มคนกลุ่มนี้ หลังทราบข่าวว่าน่าจะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ โดยตนเองจำได้ว่า คนที่มาจับตนคือคนเดียวกับที่ปรากฏภาพในโลกออนไลน์ตอนนี้
