‘สมยศ พฤกษาเกษมสุข’ จำเลย ม.112 ขอโทษประหารชีวิต เพื่อยุติปัญหา เผยกว่าคดีจะสิ้นสุดคงหมดลมเสียก่อน และไม่อยากให้ประชาชนออกมาต่อสู้ให้ตนเอง จนอาจนำไปสู่การปะทะกับเจ้าหน้าที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บ
วันที่ 29 มี.ค.2564 จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวกลุ่มราษฎร ชุดใหญ่ 22 คน มาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ตามนัดตรวจพยานหลักฐานที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งหมดในฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ร่วมกันชุมนุมฯ มาตรา 112, มาตรา 116 ฯลฯ กรณีชุมนุมวันที่ 19-20 กันยายน 2563 ทวงคืนอำนาจ-ปักหมุดราษฎร
โดยมี นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตนักสื่อสารมวลชนและนักกิจกรรม หนึ่งในจำเลยความผิดในคดีดังกล่าว ได้ขออนุญาตศาลลุกขึ้นชี้แจงข้อมูลพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี ว่า การพิจารณาคดีความผิดดังกล่าวใช้เวลานาน ตนเองมีอายุมากแล้ว เกรงว่า อาจจะสิ้นลมหายใจก่อนที่คดีจะสิ้นสุดลง จึงขอให้ศาลช่วยบันทึกคำให้การต่อจากนี้ ว่า ตนเองและพวกที่ถูกดำเนินคดีดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ ในส่วนของการประกันตัว และการต่อสู้คดี เพราะถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำ อยู่หลังกำแพงที่สูง มีโซ่ตรวนตรึงไว้
การที่ตนเองและพวกถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ทั้งที่ผลการพิจารณาคดียังไม่สิ้นสุดลง เป็นอุปสรรคในการต่อสู้คดี เพราะสุดท้ายแล้วหากศาลยกฟ้อง ตนเองและพวก ก็ถือว่า จำคุกไปแล้ว หรือ ต่อให้ศาลฟ้อง ตนเองและพวก ก็ถูกจำคุกอยู่ดี
สุดท้าย นายสมยศ กล่าวว่า ขอให้ศาลตัดสินโทษประหารชีวิตให้ตนเอง เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด และย่นระยะเวลาการพิจารณาคดีให้คนอื่นได้เร็วขึ้น รวมทั้ง ประชาชนจะได้ไม่ต้องกังวลและออกมาต่อสู้เรียกร้อง เพื่อให้ปล่อยตัวตนเองจนต้องมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่และอาจมีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีก
ขณะที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องจำเลย รวม 22 คน เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ และนายอานนท์ นำภา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 รวมทั้ง ความผิดอื่นๆ กรณีร่วมกันชุมนุม เมื่อวันที่ 19 และ 20 กันยายน 2563 ทวงคืนอำนาจ-ปักหมุดราษฎร
เนื่องจาก ทนายความแถลงต่อศาลว่า เพิ่งได้รับเอกสารในดคีนี้ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา จึงขอโอกาสในการพิจารณาเอกสาร ศาลจึงให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐาน เพื่อให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เป็นวันที่ 8 เม.ย.2564 เวลา 09.00 น.
ขณะที่จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยผู้พิพากษาได้กำชับทนายความจำเลยให้มีความพร้อมในการนัดตรวจพยานหลักฐานครั้งหน้า เพื่อให้คดีดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว
ด้าน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำและแนวร่วมที่ถูกควบคุมตัว โดยใช้หลักทรัพย์เดิมที่เคยยื่นไว้ก่อนหน้านี้ และเพิ่มเหตุผลด้านสุขภาพของแกนนำ เพื่อประกอบการพิจารณาของศาล
