สธ. เผยพบคลัสเตอร์งานศพสูงสุด ย้ำจัดงานต่างๆ คุมเข้มมาตรการส่วนบุคคล ยึดมาตรการ COVID Free Setting แนะ ดึง อสม.ร่วมคัดกรองในงาน
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2565 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วย ดร.อัมพร จันทวิบูลย์ นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ กรมอนามัย และนางประเสริฐ ท้วมมา ประธาน อสม. อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ร่วมแถลงข่าวชุมชนปลอดภัย จัดงานปลอดโควิด ด้วยมาตรการ COVID Free Setting
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อยังมากกว่า 2 หมื่นคนต่อวันจากรายงานการสอบสวนโรครายวัน ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2564–15 มี.ค. 2565 ยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ จากการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานศพ งานแต่งงาน งานบุญ หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ โดยพบสัดส่วนที่สูงในต้นเดือนก.พ. เป็นต้นมา
ทั้งนี้การจัดงานรวมกลุ่มคนในชุมชนเป็นกิจกรรมที่จัดทำได้ หากจัดด้วยความระมัดระวังและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เมื่อดูการระบาดแบบกลุ่มก้อน พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึง จ.กาญจนบุรี ประเภทกิจกรรมที่มีรายงานการระบาดเป็นกลุ่มก้อนสูงสุด คือ งานศพ ร้อยละ 56 รองลงมา งานแต่งงาน ร้อยละ 23 งานบุญ ร้อยละ 14 และงานบวช ร้อยละ 5
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับผลสำรวจของอนามัยโพลช่วงเดือนมี.ค. 2565 ถึงเหตุการณ์ความเสี่ยงที่พบเห็นในบริเวณพื้นที่อาศัยจากผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 1.8 หมื่นคน โดยร้อยละ 27 พบมีการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มที่แออัด ไม่เว้นระยะห่าง รวมถึงเห็นผู้คนไม่สวมหน้ากากหรือสวมไม่ถูกต้อง ร้อยละ 24 พบการรวมกลุ่ม ตั้งวงดื่มเหล้า หรือเล่นการพนัน ในพื้นที่ชุมชน แสดงให้เห็นว่าการจัดกิจกรรมในชุมชนยังละเลยมาตรการความปลอดภัยในการจัดงาน จึงขอเน้นย้ำความเสี่ยงให้ทุกคนที่จะจัดงานและร่วมงานให้มีวิธีปฏิบัติที่ปลอดภัย ทั้งนี้ สามารถจัดงานได้ หากทำตามมาตรการ COVID Free Setting เพื่อความปลอดภัยจากโควิด
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ความเสี่ยงการแพร่โควิดจากการทำกิจกรรมในชุมชน พบพฤติกรรมสำคัญคือ 1.การรวมกลุ่มคนจำนวนมากที่แออัด มาจากหลากหลายพื้นที่ แต่ละคนมีความเสี่ยงต่างกัน 2.ดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อเมาสูญเสียสติเพิ่มโอกาสมีพฤติกรรมเสี่ยง และ 3.มาตรการส่วนบุคคล ย่อหย่อน อาจประมาทเห็นคนกันเองน่าจะปลอดภัย เช่น กินอาหารร่วมกัน ตะโกนเชียร์ ร้องเพลง ตั้งวงเล่นพนัน ถอดหน้ากากเป็นระยะในการจัดงาน จึงต้องเน้นย้ำมาตรการป้องกันตนเองสูงสุด เพราะผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงอาการ คนติดเชื้ออาจไม่มีอาการหรืออาการน้อยมาก
ทั้งนี้การจัดงานในชุมชนให้เกิดความเรียบร้อย ปลอดภัยจากโควิด มาตรการทางสังคมที่มีกลไกของชุมชน ทั้ง อสม. ผู้นำชุมชน เป็นปัจจัยสำคัญทำให้พื้นที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ดร.อัมพร จันทวิบูลย์ นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ กรมอนามัย กล่าวว่า แนวทางจัดงานปลอดภัยใช้วิธี 3 ป คือ 1.ประเมิน พิจารณาจากความเสี่ยงจัดงาน 4 เรื่อง คือความหนาแน่นคนร่วมงาน ระยะห่าง, กิจกรรมในงานที่ต้องใช้เสียง, การเปิดหน้ากาก เช่น กินข้าว ร้องเพลง เปิดหน้าถ่ายรูป และ การระบายอากาศ หากพบ 2 ใน 4 ถือว่างานมีความเสี่ยง
2.ปรับ ใช้หลักเกณฑ์ COVID Free Setting 3 ด้าน คือ สิ่งแวดล้อม เจ้าภาพหรือผู้จัดงานเลือกสถานที่ระบายอากาศดี ลดจุดเสี่ยงต่างๆ ทำความสะอาดจุดเสี่ยง เพิ่มอุปกรณ์ล้างมือให้เพียงพอ กิจกรรมที่เสี่ยงอาจต้องปรับรูปแบบให้เหมาะสม หรือจำกัดจำนวนคนเข้าร่วม ส่วนคนจัดงานและคนร่วมงาน เน้นมีความปลอดภัย รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ประเมินตนเองว่าเสี่ยงหรือไม่ หรือใช้ ATK ตรวจ หากไปร่วมงานให้ใส่หน้ากาก พกแอลกอฮอล์เจล ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน หลังร่วมงานเฝ้าระวังตัวเอง 10 วัน
3.ปฏิบัติ ผู้จัดงาน ประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID 2Plus ว่าสถานที่กิจกรรมเป็นอย่างไร ถ้าผ่านก็เริ่มจัดงาน หรือหากมีข้อสงสัยจัดอย่างไร โทร 02-590-4000 กด 1
เมื่อประเมินแล้วว่าจัดได้ปลอดภัยตามประเมินก็แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแจ้งหน่วยปฏิบัติการในตำบลทราบว่าจัดงาน ก็จะได้นำ อสม.มาช่วยกันกำกับให้เกิดการปฏิบัติก็จะจัดงานได้ปลอดภัย ทั้งนี้ แม้การประเมินการจัดงานไม่ได้กำหนดเป็นกฎหมาย แต่ขอความร่วมมือในการประเมิน เพราะถือเป็นความรับผิดชอบ
ทางด้าน นางประเสริฐ กล่าวว่า จากการปฏิบัติงานในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในชุมชน ที่ผ่านมามีทั้งงานบวช งานแต่งงาน และงานทำบุญบ้าน โดยกระบวนการทำงานของ อสม. คือ เมื่อผู้จัดงานได้ทำการติดต่อวัดแล้ว เจ้าอาวาสหรือพระจะติดต่อมาที่ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรืออสม.ในพื้นที่ เมื่อมีการรับทราบถึงการจัดงาน จะมีการกระจายข่าวผ่านช่องทางไลน์เพื่อให้อสม.ท่านอื่นได้รับทราบ เพื่อจัดเวรปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดคัดกรองอย่างน้อย 2 จุด พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในงาน เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ สิ่งสำคัญ คือ สติ๊กเกอร์ที่แสดงถึงสัญลักษณ์ในการผ่านการตรวจคัดกรองแล้ว รวมทั้งจัดให้มีสมุดลงทะเบียนผู้ที่มาร่วมงาน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับแจ้งผู้เข้าร่วมงาน กรณีพบผู้ติดเชื้อ จะมีการติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเหมาะสมต่อไป










