จับกุมเครือข่ายโกงประกันโควิด ใช้ผลตรวจปลอมขอรับค่าสินไหม และจับกุมกลุ่มนายหน้าโกงเงินประกัน หลอกให้ผู้อื่นซื้อประกันโควิด แต่ไม่ส่งเงินให้บริษัทประกัน
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาปลอมเอกสารใบตรวจโควิดปลอม และกลุ่มนายหน้าโกงเงินประกัน
โดยกลุ่มแรก มีผู้ต้องหา 18 คน แต่สามารถจับกุมได้ 11 คน ซึ่งพฤติการณ์ เป็นผู้ที่ทำประกันโควิดกับบริษัทประกันภัย แล้วถูกกลุ่มบุคคลชักชวนให้ทำเอกสารใบตรวจโควิดปลอม หรือใบ RT-PCR แล้วนำไปยื่นเคลมกับบริษัทประกัน ซึ่งมีผู้ต้องหา 11 คนได้รับเงินประกันไปแล้วรายละ 50,000 บาท โดยมีการหักค่าดำเนินการให้กลุ่มบุคคลที่ชักชวนไปรายละ 30,000 บาท ต่อมาบริษัทประกันได้ตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด พบว่าใบตรวจ RT-PCR เหมือนใบตรวจสถานพยาบาลที่มีอยู่จริงแต่หมายเลขผู้ป่วยเมื่อค้นในระบบพบว่ารายชื่อไม่ตรงกัน จึงทำให้รู้ว่าเป็นผู้ป่วยปลอม จึงทำให้เกิดพิรุธ ทางบริษัทจึงส่งเรื่องกับ คปภ. ต่อมา คปภ.นำระบบ AI ตรวจสอบพบว่าเอกสารมีการปลอมแปลง จึงนำมาแจ้งความกับกองปราบ
ส่วนผลการสอบสวนในขณะนี้ ทางคลินิกและแล็บที่ถูกกล่าวอ้างยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็น แต่ทางการสอบสวนตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จะมีการสอบสวนต่อไป เบื้องต้น ผู้ต้องหา 11 คน ไม่มีประวัติก่อคดีมาก่อน
สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหากลุ่มนี้มีความผิด ปลอมและใช้เอกสารปลอม เรียกร้องผลประโยชน์ตามกรมธรรม์โดยทุจริตหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการเรียกร้องตามพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย 2535
ส่วนผู้ต้องหาอีกกลุ่ม เป็นกลุ่มนายหน้าประกันภัย 3 คน โดยหลอกลวงให้ผู้อื่นซื้อประกันโควิด แต่ไม่ส่งเงินประกันให้กับบริษัทประกันภัย ทำให้สถานะสัญญาประกันภัยไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งในกลุ่มนี้สร้างความเสียหายประมาณ 53 ล้านบาท โดยกลุ่มนี้มีความผิดทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการชักชวนชี้ช่อง จัดการให้ผู้อื่นนั้นทำหรือรักษาสัญญาประกันชีวิตกับบริษัท
นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ คปภ. ระบุว่าจากกรณีการฉ้อฉลเอาเงินประกันภัย ทำให้ค่าเบี้ยประกันโควิดเพิ่ม 20% เพราะถ้าบริษัทประกันจ่ายค่าสินไหมมากเท่าไร เบี้ยประกันจะเพิ่มเท่านั้น แต่ถ้ามีคนเคลมน้อย เบี้ยประกันจะถูกลง เพราะเบี้ยประกันจะเพิ่มอัตราส่วน ซึ่งผลกระทบมายังผู้บริโภครายอื่นด้วย
