‘อนุทิน’ ย้ำ ‘โควิด’ คุกคามกลุ่มไม่ได้รับวัคซีน กลุ่ม 608 อันตรายสุด ขอคนไทยฉีดวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยรุนแรงและลดโอกาสเสียชีวิต ขณะที่กรมควบคุมโรคสอบสวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ‘เดลตาครอน’ รายแรกในไทย
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย สัปดาห์ที่ 47 (วันที่ 20-26 พ.ย. 65) พบผู้ป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 4,914 ราย เฉลี่ย 702 รายต่อวัน และผู้ป่วยเสียชีวิตจากโควิด-19 รวม 74 ราย เฉลี่ย 10 ราย/วัน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เป็นไปตามคาดการณ์หลังจากโรคโควิด-19 ปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่ากรมควบคุมโรคได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยดำเนินการเฝ้าระวังเชิงรุกในชุมชน สถานที่เสี่ยงและผู้ป่วยที่มารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมทั้งติดตามการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์กลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำให้พบผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลปทุมธานี
เป็นหญิงไทย อายุ 47 ปี หลังตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK จากที่บ้าน และได้รับการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ตามแนวทางการเฝ้าระวังโรค เป็นสายพันธุ์เดลตาครอน (XBC) รายแรกของประเทศ ผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีนแล้วรวม 3 เข็ม (Astra-Zeneca 2 เข็มแรกเมื่อปี 2564 และวัคซีน Pfizer เข็มที่ 3 เมื่อกุมภาพันธ์ 2565) ไม่มีอาการป่วยรุนแรง ขณะนี้หายดีแล้ว
นพ.ธเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรค ขอเน้นย้ำมาตรการที่สำคัญสำหรับประชาชนทั่วไป และกลุ่ม 608 ให้ไปรับวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 4 เข็ม และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4-6 เดือนให้รีบไปฉีดวัคซีนเข็มถัดไป เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยหนัก และลดโอกาสการเสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ที่พบในขณะนี้ สามารถไปรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทั่วประเทศ และสำหรับผู้ที่ไปทำกิจกรรมในพื้นที่แออัด ใช้บริการในสถานที่สาธารณะ โดยสารขนส่งสาธารณะ ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะจากผู้อื่น ทั้งนี้หากประชาชนมีอาการป่วยทางเดินหายใจ ให้สังเกตอาการตนเอง และไปพบแพทย์เมื่อมีอาการมากขึ้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1422
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าคนไทยทุกคนควรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบ 4 เข็ม ตามมติจากที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (EOC) กรณีโรคโควิด-19 เนื่องจากมีข้อมูลว่าจะช่วยให้มีความปลอดภัย หากติดเชื้ออาการจะไม่รุนแรงหรือเสียชีวิต ซึ่งเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายของปี จะมีการท่องเที่ยว มีกิจกรรมการเดินทางจำนวนมาก ผู้ประกอบการต้องรับลูกค้าเพิ่มขึ้น มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา จึงอาจมีความเสี่ยงเกิดการแพร่เชื้อได้
สำหรับกลุ่มที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนเลย ขอให้มาฉีดวัคซีนเช่นกัน เนื่องจากข้อมูลทั่วโลกพบว่า โรคโควิด-19 จะคุกคามผู้ไม่ได้รับวัคซีนได้มากที่สุด ยิ่งเป็นกลุ่ม 608 ยิ่งมีอันตราย เสี่ยงที่จะป่วยหนักและเสียชีวิตได้ แต่หากรับวัคซีนแล้ว โดยเฉพาะเข็ม 4 จะช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ได้อย่างมาก ซึ่งวัคซีนขณะนี้มีเพียงพอ สถานพยาบาลมีความพร้อมดูแล ส่วนผู้ประสงค์รับมากกว่า 4 เข็ม เนื่องจากมีความเสี่ยง เช่น ต้องเดินทางไปประเทศที่สุ่มเสี่ยง ต้องพบปะผู้คนจำนวนมากตลอดเวลา ให้บริการสาธารณะ ขนส่ง ต้องดูแลลูกค้า เป็นต้น ก็สามารถแจ้งความต้องการได้










