
จากกรณีที่เฟซบุ๊กโรงพยาบาลศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ได้ประกาศเมื่อวันที่ 3 เม.ย.แจ้งถึงสถานะผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 3 ของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังจากที่ได้รับการรักษาตามแผนมาเป็นระยะเวลา 14 วัน จนตรวจไม่พบเชื้อ โดยให้คำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยและให้ระมัดระวังสุขภาพในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นจนครบ 1 เดือนนับจากวันเริ่มป่วย

วันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทราบข่าวเกิดเสียงคัดค้านจากชุมชนและชาวบ้านที่ผู้ป่วยรายนี้จะเดินทางกลับบ้านไปพักฟื้น โดยเกิดความกังวลเกรงผู้ป่วยยังมีเชื้อ ประกอบมีผู้สูงอายุอยู่ใกล้เคียงเกรงไม่ปลอดภัย จึงเสนอให้พักฟื้นที่โรงพยาบาลต่อไปจนครบกำหนดเวลา ทำให้แผนการส่งกลับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายนี้ไปพักฟื้นที่บ้านพักต้องติดขัดและชะลอออกไป
.
อำเภอศรีเทพ ได้ประชุมร่วมกับทางโรงพยาบาลศรีเทพ เพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยได้ข้อสรุปให้ทีมแพทย์และทีมสาธารณสุขอำเภอ(สสอ.) ศรีเทพ ลงพื้นที่ชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับชุมชนและชาวบ้าน ที่ผู้ป่วยจะกลับบ้านไปพักฟื้นก่อน แต่หากยังถูกต่อต้านก็จะจัดเตรียมสถานที่พักพิงชั่วคราวให้ผู้ป่วยรายนี้พักฟื้นแทนจนกว่าจะครบกำหนดเวลา
.
ต่อมาที่ศาลาประชาคมหมู่ที่ 3 ต.สระกรวด นายสหชัย แจ่มประสิทธิ์สกุล นายอำเภอศรีเทพ นายวิชาญ ดาทุมมา ปลัดอำเภอศรีเทพ พร้อมแพทย์โรงพยาบาลศรีเทพ สาธารณสุขอำเภอศรีเทพ ผอ. รพ. สตทุ่งเศรษฐี กำนันวินัยทองบ่อ ลงพื้นที่แจงชาวบ้านเรื่องผู้ป่วยโควิด-19 กลับมาพักฟื้นที่บ้าน โดยคณะทีมแพทย์อำเภอศรีเทพ ได้แจ้งว่า ผู้ป่วยอาการดีขึ้นเป็นลำดับ และให้ผู้ป่วยกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งคณะแพทย์ได้ให้ความรู้เรื่องการกักตัวโดยให้สามีและลูกแยกอยู่คนละบ้าน โดยการส่งอาหารนั้นจะเป็นหน้าที่ของสามี และให้แยกภาชนะที่ใช้ในการใช้รับประทานอาหาร
.
สำหรับจังหวัดเพชรบูรณ์ เดิมมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันรวม 3 ราย โดยรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ 2 ราย โรงพยาบาลศรีเทพ 1 ราย ต่อมาผลการรักษาผู้ป่วย 2 ราย ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 แล้ว จึงอนุญาต ให้เดินทางกลับไปพักที่บ้าน แต่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านต่ออีก 14 วัน ซึ่งผู้ป่วยอีกคนแพทย์โรงพยาบาลเพชรบูรณ์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้ว หลังจากผลตรวจครั้งสุดท้ายยืนยันไม่พบเชื้อ
.









