อุปทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เผยความคืบหน้าวัคซีนไฟเซอร์ 1 ล้านโดสที่สหรัฐฯ จะบริจาคให้ไทยเพิ่ม ยืนยันกำลังเดินเรื่องเอกสารสำคัญร่วมกับไทยอย่างใกล้ชิด หวังส่งถึงไทยเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้
วันที่ 25 ก.ย. 2564 นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ @USAmbThailand ถึงความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 ที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะบริจาคให้อีก 1 ล้านโดสว่า หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศบริจาควัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพิ่มเติมอีก 1 ล้านโดสเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมานั้น
ในตอนนี้ทางการสหรัฐฯ และรัฐบาลไทยกำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับเอกสารสำคัญต่างๆ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งตารอการขนส่งวัคซีนล็อตที่สองให้มาถึงประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และยังคงจะเดินหน้าร่วมกันเพื่อรักษาชีวิตประชาชนต่อไป
As previously announced in July, the United States will donate an additional 1 million doses of safe and effective vaccines to Thailand. (1/2)
— Ambassador Robert F. Godec (@USAmbThailand) September 25, 2021
The U.S. and Thailand are working in close coordination to complete all necessary documentation. We look forward to welcoming the second shipment of vaccines to Thailand as soon as possible. Together we continue to save lives. (2/2)
— Ambassador Robert F. Godec (@USAmbThailand) September 25, 2021
การออกมาเปิดเผยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ภาพและข้อความระบุว่าได้เดินทางไปที่สหรัฐอเมริกา และได้เข้าพบนางแทมมี่ ดักเวิร์ธ สมาชิกวุฒิสภาแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่ง ส.ว. แทมมี่ ระบุว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ที่เหลืออีก 1 ล้านโดสให้ไทย แต่ขณะนี้รัฐบาลไทยยังไม่ส่งเอกสารตอบรับมา จึงทำให้ยังไม่สามารถส่งมอบอีก 1 ล้านโดสที่เหลือให้ชาวไทยได้
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาตอบโต้ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง พร้อมทั้งกล่าวว่าการดำเนินการในเรื่องต่างๆ ระหว่างประเทศ จะมีขั้นตอนพิธีการที่เป็นสากล ผ่านกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก
ขณะที่นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้รายงานว่า ขณะนี้ฝ่ายสหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการภายใน โดยยังไม่ได้กำหนดการส่งมอบวัคซีน และสหรัฐฯ ยังไม่ได้ประสานงานด้านเอกสารกับหน่วยราชการไทยใดๆ ทั้งสิ้น










