ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่ม 2 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 46 ปี และ 36 ปี เดินทางกลับจากไนจีเรีย ขณะที่วันนี้มีผู้ติดโควิด-19 เพิ่มอีก 4,203 ราย เสียชีวิต 49 ราย รักษาหายเกือบ 7,000 ราย
วันที่ 9 ธ.ค. 2564 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันดังนี้
– ติดเชื้อรายใหม่ 4,203 ราย สะสม 2,156,587 ราย
– ผลตรวจ ATK 1,020 ราย สะสม 354,649 ราย
– เสียชีวิต 49 ราย สะสม 21,084 ราย
– หายป่วยเพิ่ม 7,939 ราย
– กำลังรักษา 60,415 ราย
สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ณ เวลา 06:00 น.
– ผู้ป่วยยืนยัน 268,036,951 ราย
– กลับบ้านแล้ว 241,234,253 ราย
– ยังรักษาใน รพ.21,508,754 ราย
– เสียชีวิต 5,285,135 ราย

‘ฉีดวัคซีน’ 100 ล้านโดส โดส กับเวลาที่เหลือ 23 วัน ก่อนสิ้นปี ไทยจะฉีดวัคซันได้ตามเป้าหรือไม่ต้องลุ้นกัน เพราะช่วงหลังจำนวนผู้ที่ไปรับการฉีดวัคซีนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ช่วง 23 วันที่เหลือจะต้องฉีดวัคซีนเฉลี่ยวันละ 148,638 โดส
‘หมอพร้อม’ รายงานสถิติการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 8 ธ.ค. 2564 ณ เวลา 23.28 น. ไทยฉีดวัคซีนได้เพิ่ม 353,908 โดส รวมสะสม 96,418,322 โดส แบ่งเป็น
- เข็ม 1 : เพิ่ม 124,307 ราย สะสม 49,581,322 โดส หรือ 74.91 ของจำนวนประชากร
- เข็ม 2 : เพิ่ม 145,760 ราย สะสม 42,885,078 โดส หรือ 64.79 ของจำนวนประชากร
- เข็ม 3 : เพิ่ม 81,378 ราย สะสม 3,925,157 โดส หรือ 5.93 ของจำนวนประชากร
- เข็ม 4 : เพิ่ม 2,463 ราย สะสม 27,016 โดส

- ไทยพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มอีก 2 ราย
ขณะที่วานนี้ 8 ธ.ค. 2564 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยง กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผย ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 หญิงไทย 2 คน อายุ 36 ปี และอายุ 46 ปี ที่เดินทางกลับมาจากการทำหน้าที่ล่าม และเข้าร่วมประชุมเป็นตัวแทนคริสตจักรที่ประเทศไนจีเรีย มีความเป็นได้สูงที่จะเป็นสายพันธุ์โอไมครอน
สำหรับหญิงไทย 2 ราย ได้เดินทางไปไนจีเรีย ระหว่างวันที่ 13-23 พ.ย.2564 ที่เมืองลากอส ซึ่งมีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 20 ราย เป็นกลุ่มหญิงไทย 3 คน ส่วนอีก 17 ราย เป็นชาวต่างชาติ แต่หลังจากประชุมเสร็จ หญิงไทย 1 ใน 3 ราย ได้เดินทางไปยังสวีเดน ทำให้เหลือหญิงไทยเดินทางกลับเพียง 2 คน ซึ่งทั้ง 2 ราย ได้ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ที่ไนจีเรีย ในวันที่ 21 พ.ย.2564 จำนวน 1 ครั้ง ผลการตรวจเป็นลบ
ขณะจะเดินทางประเทศไทยในวันที่ 23 พ.ย. ได้มีอาการเจ็บคอเล็กน้อย และมีอาการไอ และเมื่อเดินทางกลับไทยในวันที่ 24 พ.ย. ได้เข้าสู่ระบบการกักตัว เนื่องจากทั้ง 2 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีน และไม่ได้กลับมาจาก 63 ประเทศต้นทางที่มีความเสี่ยง
เมื่อเข้าสู่ระบบการกักตัว ได้ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ในวันแรก ผลเป็นบวกทั้ง 2 ราย จึงย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาล จนครบกำหนดในวันที่ 5 ธ.ค. แต่เนื่องจากว่าวันที่ 16 พ.ย.2564 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้โอมิครอนเป็นเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ดังนั้น จึงได้มีการนำตัวอย่างของทั้ง 2 ราย ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา มาตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม ผลพบว่ามีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะติดเชื้อโอมิครอน ซึ่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนที่ 3 คือถอดรหัสพันธุกรรม เพื่อที่จะยืนยันว่าเป็นโอมิครอน ซึ่งจะมีผลออกมาภายใน 1-2 วัน
กรมควบคุมโรคได้มีการสอบสวนโรคเพิ่มเติม พบว่าทั้ง 2 คนได้มีการทำกิจกรรม และไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ประกอบการที่ไม่ได้รับวัคซีนทั้ง 2 คน ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ มีการสอบสวนผู้สัมผัสใกล้ชิด หากมีความก้าวหน้าจะมารายงานให้ทราบต่อไป ซึ่งขณะนี้แม้ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีการรักษาครบไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2564 แต่ได้มีการติดต่อให้คุมสังเกตเพิ่มเติมอีก 7 วัน เพื่อที่จะสังเกตอาการ
ส่วนอีก 1 คน ที่ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย แต่เดินทางไปยังสวีเดน ได้มีการสอบถามไปยังสวีเดน ได้รับรายงานว่า ตรวจพบเชื้อเป็นผลบวกที่สวีเดนเช่นกัน










