‘โอไมครอน’ ระบาดแล้วทั่วไทยในสัดส่วน 86% พบผู้ติดเชื้อสะสม 10,721 ราย อธิบดีกรมวิทยาฯ ชี้ปลายเดือน ม.ค. สายพันธุ์เดลตาจะถูกโอไมครอนแทนที่
วันที่ 21 ม.ค. 2565 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า ไม่มีจังหวัดใดที่ไม่ติดเชื้อโอไมครอน ติดกันแล้วในทุกพื้นที่ หากดูภาพรวมรายแรกที่พบโอไมครอนจนถึงปัจจุบันไทยพบผู้ติดเชื้อสะสม 10,721 ราย ส่วนจังหวัดที่ตรวจพบโอไมครอนมากที่สุด 10 จังหวัด ได้แก่
- กรุงเทพฯ 4,178 ราย ติดเชื้อในประเทศ 1,176 ราย
- ชลบุรี 837 ราย ติดเชื้อในประเทศ 451 ราย
- ภูเก็ต 434 ราย ติดเชื้อในประเทศ 32 ราย
- ร้อยเอ็ด 355 ราย ติดเชื้อในประเทศทั้งหมด
- สมุทรปราการ 329 ราย เชื้อในประเทศ 54 ราย
- สุราษฎร์ธานี 319 ราย ติดเชื้อในประเทศ 33 ราย
- กาฬสินธุ์ 301 ราย ติดเชื้อในประเทศ 299 ราย
- อุดรธานี 217 ราย ติดเชื้อในประเทศทั้งหมด
- เชียงใหม่ 214 ราย ติดเชื้อในประเทศ 118 ราย
- ขอนแก่น 214 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศทั้งหมด
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า การติดเชื้อทางภาคอีสานทั้งร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุดรธานี เป็นผลพวงของคลัสเตอร์ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนสมุทรปราการ และเชียงใหม่ที่เริ่มมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ส่วนภาพรวมการติดเชื้อโควิดทั้งประเทศแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศจำนวน 1,437 ตัวอย่าง พบว่า 96.9% เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ฉะนั้นคนที่มาจากต่างประเทศเชื่อได้ว่าเป็นสายพันธุ์โอไมครอนเกือบ 100%
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการติดตามสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ว่า จากการตรวจกลุ่มในประเทศจำนวน 2,274 ตัวอย่าง พบเป็นโอไมครอนเพิ่มขึ้นจนมีสัดส่วนโอมิครอนถึง 80.4% ที่เหลือเป็นเดลตา 19.6% และหากรวมทุกกลุ่มทั้งหมดจำนวน 3,711 ตัวอย่าง พบว่า โอไมครอนมีสัดส่วนราว 86.8% และเดลตามีสัดส่วน 13.2% เท่านั้น
สัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มที่มาจากต่างประเทศหรือชายแดนที่ถือว่าจะนำเชื้อเข้ามา ทุกรายตรวจด้วยวิธี RT-PCR ก่อนจะคัดอีก 10 คน ไปตรวจจีโนมเพื่อแยกสายพันธุ์ ส่วนกลุ่มอื่นๆ เช่น การสุ่มในภาพรวม กลุ่มที่เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ๆ ติดเชื้อสูงเกินกว่า 50 ราย, กลุ่มที่ได้รับวัคซีนครบแล้วยังป่วน, กลุ่มที่มีอาการรุนแรง, กลุ่มผู้ติดเชื้อโควิดซ้ำ และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ หรือกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องจะมีการสุ่มตรวจคัดแยกสายพันธุ์
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า หากวิเคราะห์เจาะลึกลงไปจะพบว่าสัปดาห์นี้ภาพรวมการติดโอไมครอนมีสัดส่วน 86% และอีก 13% เป็นเดลตา ในกลุ่มผู้ป่วนอาการรุนแรงพบโอไมครอนน้อยกว่าค่าที่ควรจะเป็น ขณะที่พบเดลตาสูงกว่าปกติ 2 เท่า ตรงนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าโอไมครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าเดลตาค่อนข้างชัดเจน และจุดที่น่านใจคือการติดเชื้อซ้ำ 100% มาจากสายพันธุ์โอไมครอนซึ่งปกติแล้วเชื้อโควิดหากติดซ้ำจะไม่ใช่สายพันธุ์เดิม จึงทำให้ได้ข้อสรุปบางประการเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่
ข้อสรุปสถานการณ์โอไมครอนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ สายพันธุ์นี้มีการแพร่กระจายค้อนข้างเร็ว โดยกลุ่มต่างประเทศเกือบ 100% เป็นโอไมครอน กลุ่มรุนแรงและเสียชีวิตพบว่าสัดส่วนเดลตายังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มทั่วไป โอไมครอนหลบวัคซีนได้ จึงคาดว่าภายในปลายเดือนม.ค. เดลตาจะหายไปในที่สุด โอไมครอนในประเทศจะสูงเทียบเท่ากับกลุ่มที่เข้ามาจากต่างประเทศ
ดังนั้นการตรวจหาสายพันธุ์อาจจะลดลง แต่การถอดรหัสทั้งตัวยังต้องทำ เพื่อดูว่าโอไมครอนจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ คนทีมาจากต่างประเทศก็ต้องสุ่มตรวจเพราะอาจมีสายพันธุ์ใหม่เข้ามา สุดท้ายเราต้องอยู่ร่วมกับโอไมครอนขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็ม 3 เพื่อสามารถลดการแพร่ระบาด การติดเชื้อ และลดอาการป่วยรุนแรงได้ด้วย










