
โฆษก ศบค. เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 9 ราย เดินทางกลังจากสหรัฐอเมริกา, กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย อยู่ในศูนย์กักกันของรัฐบาล
วันที่ 27 พ.ค.2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 วันนี้พบผู้ป่วยใหม่ 9 ราย เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ราย กาตาร์ 2 ราย และซาอุดิอาระเบีย 6 ราย และเข้า State Quarantine ที่รัฐจัดให้ ผู้ป่วยสะสม 3,054 ราย หายป่วยแล้วเพิ่มขึ้น 2 ราย รวม 2,931 ราย ไม่มีผู้ที่เสียชีวิตเพิ่ม ยังคงมีผู้ที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 66 ราย
สำหรับผู้ป่วย 9 รายวันนี้ เป็นชายไทย 2 รายมีอายุ 18 ปี และ 27 ปี กลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม State Quarantine จ. ชลบุรี รายที่ 3 เป็นชายไทย อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานนวดกลับมาจากประเทศกาตาร์ เข้าพัก State Quarantine ที่จ.สมุทรปราการ และอีก 6 ราย เป็นนักศึกษาชาย อายุ 33 ปี กลับมาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และผ่านทางด่านปาดังเบซาร์เข้าไทย เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม และเข้าพัก State Quarantine จ.สงขลา จึงอาจต้องมีการปิดด่านเพื่อที่จะทำความสะอาดดูแลสุขลักษณะต่าง ๆ
ทั้งนี้ จำแนกจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมตามปัจจัยเสี่ยง 3 อันดับแรกจากผู้ป่วนยืนยัน 2 สัปดาห์ล่าสุด อันดับ 1 คือ ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าสถานกักกันของรัฐ จำนวน 15 ราย อันดับ 2. คือ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า 8 ราย และ อันดับ 3. คือ ไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว ขณะที่จำนวนผู้ป่วยสะสมจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าที่มีทั้งสิ้น 1,190 ราย อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด 284 ราย สนามมวย 276 ราย คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 269 ราย สถานบันเทิง 226 ราย
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของโลก พบผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 5,684,795 ราย รวมจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 352,225 ราย สหรัฐอเมริกายังคงมีผู้ป่วยยืนยันสะสมเป็นอันดับที่ 1 ของโลก รองลงมาคือบราซิลและรัสเซียตามลำดับ ขณะที่อินเดียมีจำนวนผู้ป่วยยืนยันในกลุ่มประเทศเอเชีย โดยประเทศไทยอยู่อันดับที่ 77 ของโลก ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศต่าง ๆ นั้น อังกฤษได้มีการอนุญาตให้คลายล็อกดาวน์ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ให้เปิดร้านค้า ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ขณะที่ญี่ปุ่นได้มีการประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ โดยจะประเมินสถานการณ์การติดเชื้อทุก 3 สัปดาห์ ขณะที่เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 36 รายที่มาจากศูนย์กระจายสินค้าออนไลน์คูปัง เมืองบูชอน ทางตะวันตกของกรุงโซล ซึ่งคาดว่าตัวเลขจะสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก
รายงานข้อมูลสรุปการใช้งาน www.ไทยชนะ.com มีร้านค้าลงทะเบียน 116,175 ร้าน ผู้ใช้งาน 13,769,194 คน การใช้เช็คอิน 34,827,852 ครั้ง เช็คเอ้าท์ 23,563,704 ครั้ง และจำนวนการประเมินร้านค้า 13,567,825 ครั้ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำลังพัฒนาแอปพลิเคชันที่จะลงทะเบียนใช้งานและมีการแจ้งเตือนเมื่อลืมเช็คเอ้าท์และสามารถเช็คเอ้าท์ที่บ้านได้ ขณะที่รายงานผู้เดินทางกลับเข้าประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบก มีผู้เดินทางจากเมียนมา 1 คน มาเลเซีย 195 คน สปป.ลาว 11 คน และ กัมพูชา 9 คน รวม 216 คน จะมีการปิดด่านภาคใต้เพิ่ม 1 ด่าน คือด่านปาดังเบซาร์

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงแนวทางการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 ว่า คณะกรรมการเฉพาะกิจการพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะมีการประชุมหารือกันถึง กิจการ/กิจกรรม ที่จะสามารถผ่อนคลายได้มากขึ้น โดยเน้นการเปิดสถานประกอบการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย อาจรวมถึง กิจการ/กิจกรรม ที่จัดว่ามีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงด้วย ขอให้รอมติจากที่ประชุม ศบค. ภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ชุดข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าไม่ควรนิ่งนอนใจถึงแม้ว่าสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อจะน้อยลง เพราะอาจมีผู้ป่วยหลายคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการ จึงขอให้ประชาชนช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการหลักในช่วงเวลา 1 เดือนนี้ เพื่อให้สามารถผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 ได้ และง่ายต่อการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 ด้วย พร้อมฝากไปถึงผู้ประกอบกิจการที่กิจการ/กิจกรรม ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง หากมีมาตรการป้องกันหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างความมั่นใจได้ก็สามารถเสนอต่อ ศบค. เพื่อเปิดกิจการและเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะทำหน้าที่ดูแล ควบคุม เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด









