จับตา 18 มี.ค.นี้นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถก ศบค.ชุดใหญ่ปลดล็อกเปลี่ยนโควิด-19 เข้าสู่โรคประจำถิ่น

จับตา 18 มี.ค.นี้นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถก ศบค.ชุดใหญ่ปลดล็อกเปลี่ยนโควิด-19 เข้าสู่โรคประจำถิ่น

COVID-19

สธ.ชงศบค.ชุดใหญ่ ผ่อนคลายกิจการ-กิจกรรมคุมเข้มโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปกติพร้อมเริ่มแผนเปลี่ยนโควิดจากการระบาดเข้าสู่โรคประจำถิ่น

วันที่ 14 มี.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ชุดใหญ่ในวันศุกร์ที่ 18 มี.ค.นี้ คาดว่ากระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการเสนอปรับมาตรการต่างๆ ทั้งการควบคุม เฝ้าระวัง และป้องกันโควิด-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด รวมทั้งอาจมีการพิจารณาคลายล็อกกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเดินหน้าใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแผนเปลี่ยนโรคโควิด-19 จากการระบาด (Pandemic) เป็นระยะ เข้าสู่โรคประจำถิ่น (Endemic approach) โดยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ (4 เดือน) หรือเรียกว่า 3 บวก 1 ดังนี้

ระยะที่ 1 (12 มี.ค.-ต้น เม.ย.65) เรียกว่า Combatting เป็นระยะต่อสู้ ต้องกดตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ให้สูงกว่านี้ เพื่อลดการระบาด ลดความรุนแรงลง โดยจะมีมาตรการต่างๆ ออกไป

ระยะที่ 2 (เม.ย.-พ.ค.65) เรียกว่า Plateau คือ การคงระดับผู้ติดเชื้อไม่ให้สูงขึ้น ให้เป็นระนาบจนลดลงเรื่อย

ระยะที่ 3 (ปลาย พ.ค.-30 มิ.ย.65) เรียกว่า Declining คือ การลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงให้เหลือ 1,000 – 2,000พันราย

ระยะ 4 (บวก 1) ตั้งแต่ 1 ก.ค.2565 เป็นต้นไป เรียกว่า Post pandemic คือ ออกจากโรคระบาดเข้าสู่โรคประจำถิ่น

นายธนกร กล่าวว่า สิ่งที่เราจะทำคือ การปรับเป้าหมาย โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อ เนื่องจากสถานการณ์ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่ยังเน้นเป้าหมายการฉีดวัคซีนป้องให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อปรับอัตราเสียชีวิตให้ลดลงและเน้นการรักษาในกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง