รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมหารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่ได้เข้ารักษาในโรงพยาบาล จำนวน 1,423 ราย สั่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 25 เม.ย. 2564
วันที่ 23 เม.ย. 2564 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมบริหารจัดการเตรียมผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ กลุ่มตกค้าง พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลสังกัดทหาร โรงพยาบาลสังกัดตำรวจ และ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าร่วมประชุม
โดย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับถึงความล่าช้าของระบบ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์กระทบกับประชาชน มีผู้รอเตียงจำนวนมาก และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
“ผมต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และกราบขออภัยอย่างยิ่ง ทาง สธ. ก็ได้มีการดำเนินงานในการจัดหาเตียงต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำความผิดพลาดต่างๆ มาหารือร่วมกันในวันนี้ จึงได้ข้อสรุปว่าจะมีการใช้คอลเซ็นเตอร์ ที่มีประสบการณ์จากสายด่วน 1330 และสายด่วน 1668 ประสานติดต่อกลับไปยังผู้ป่วยที่ยังคงค้างรอเตียงอยู่”
“จากข้อมูลตอนนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังตกค้างไม่ได้แอดมิดเข้าสู่ระบบทั้งสิ้นประมาณ 1,423 ราย เราจะร่วมกันนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบให้เร็วที่สุด โดยจะมีการแบ่งการจัดการตามข้อมูลที่เรามีอยู่ เพื่อติดต่อไปยังผู้ป่วยทุกราย เพื่อสอบถามข้อมูล ก่อนนำเข้าสู่ระบบคัดกรอง”
โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เป็นแม่ข่ายในการขนส่งผู้ติดเชื้อไปจุดคัดกรอง 4 จุด มีทั้งโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เพื่อคัดกรองผู้ป่วยและจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มสี คือ สีเขียว อาการน้อย ต้องอยู่ใน Hospitel หรือ โรงพยาบาลสนาม ส่วนสีเหลืองอาการปานกลาง และ สีแดง อาการรุนแรง จะอยู่ในโรงพยาบาล
ดังนั้น ย้ำว่า ผู้ป่วยไม่สามารถปฏิเสธ หรือเลือกว่า จะเข้าในสถานที่ใดได้ จะมีการพิจารณาจากพื้นที่ใกล้เคียงผู้ป่วย
ทั้งนี้ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน จะเริ่มดำเนินการรับส่งผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 2564 เป็นต้นไป แต่ระหว่างนี้จะเริ่ม ดำเนินการติดต่อไปยังผู้ติดเชื้อทุกรายที่อยู่ระหว่างรอเตียง รวม 1,423 ราย
ที่มา: https://web.facebook.com/643148052494633/videos/267188305108903/










