เดินหน้าปูพรมฉีดวัคซีน มิ.ย. นี้ เปิดให้ผู้สมัครใจเข้ามาฉีดได้เลย เร่งกระจายวัคซีนไปทุกพื้นที่

เดินหน้าปูพรมฉีดวัคซีน มิ.ย. นี้ เปิดให้ผู้สมัครใจเข้ามาฉีดได้เลย เร่งกระจายวัคซีนไปทุกพื้นที่

COVID-19

คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ มีมติเดินหน้าปูพรมเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนทุกพื้นที่ เริ่มต้นเดือน มิ.ย. นี้ พร้อมเปิดให้ผู้ที่ต้องการฉีดเข้ามาได้เลย โดยไม่ต้องนัดหมาย

วันที่ 12 พ.ค. 2564 ภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม แถลงมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบใน 3 ประเด็นหลัก คือ การหารือเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากแผนเดิมที่จะจัดหา 100 ล้านโดส เพิ่มเป็น 150 ล้านโดส และแนวทางเร่งทำงานเชิงรุก เจรจาจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มเติม ปรับแผนการฉีดวัคซีน เปิดปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชน โดยเริ่มต้นทันทีในเดือน มิ.ย. นี้ ผ่าน 3 ช่องทาง คือ

1. กลุ่มที่มีการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหรือ LINE หมอพร้อม

2. การจัดขอเข้ารับเป็นกลุ่มหมู่คณะเช่นในโรงงานหรือสถานประกอบการขนาดใหญ่

3. เปิดให้ประชาชนทั่วไป ได้เลยโดยไม่ต้องนัดหมาย

ส่วนวัคซีน ที่ภาคเอกชนกำลังจัดหาเพื่อเป็นทางเลือกในขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการขององค์การเภสัชกรรมในการประสานข้อมูล ทั้งนี้ ต้องเป็นวัคซีนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยาแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถนำเข้าได้

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า แผนการปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนนั้น ทางกรมควบคุมโรคมีแผนต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ร้อยละ 70 ของจำนวนประชาชนในแต่ละจังหวัด โดยพื้นที่ซึ่งมีการระบาด เช่น กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล แต่ก็เป็นไปตามความสมัครใจในการรับวัคซีน

สำหรับ แผนการเปิดฉีดวัคซีนให้ประชาชน สามารถเข้ามารับวัคซีนได้โดยไม่ต้องนัดหมายนั้น จะเน้นกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มีประวัติการรักษาในสถานพยาบาล เป็นบุคคลกลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น กลุ่มพนักงานขับรถโดยสาร คนขับรถแท็กซี่

โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนตามจุดต่างๆ ที่จัดให้เป็นจุดรับวัคซีน ซึ่งเป็นสถานที่เปิดโล่งมีระบบระบายอากาศ และรองรับคนจำนวนมากได้ เพื่อลดความแออัด เช่น สถานีกลางบางซื่อ จามจุรีสแควร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เดอะมอลล์ บางกะปิ

ทั้งนี้ มีการแบ่งสัดส่วนของการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในแต่ละจุดแตกต่างกันตาม สถานการณ์และการประเมินของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนั้น เช่น อาจกำหนดให้กลุ่มที่มาตามนัดหมายผ่าน LINE หมอพร้อม หรือ แอปพลิเคชัน หมอพร้อม ร้อยละ 30 กลุ่มประชาชนที่ทางโรงพยาบาลประสานร้อยละ 50 และผู้ที่เดินทางเข้ารับวัคซีนด้วยตนเองโดยไม่ได้นัดหมายอีกร้อยละ 20

โดยการเข้ารับวัคซีนนั้น จะใช้เกณฑ์ตามข้อบ่งชี้การใช้ทางการแพทย์ ไม่มีการเลือกยี่ห้อวัคซีนเองได้ หากจังหวัดใดมีความพร้อม ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สามารถดำเนินการได้ทันที

หลังการเข้ารับวัคซีนแล้วประชาชนต้องลงทะเบียน เพื่อติดตามผลและประเมินอาการผ่านแอปพลิเคชัน หรือ LINE หมอพร้อม ส่วนกรณีไม่มีแอปพลิเคชันในการติดตามผลจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ โรงพยาบาล เป็นผู้ติดตามอาการหลังการรับวัคซีน

ส่วนกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนด้อยโอกาส ทุกคน ต้องได้รับวัคซีนแน่นอน แต่อยู่ในระหว่างจัดทำแผนรองรับ เพื่อความมั่นใจในการเข้ารับวัคซีนที่ปลอดภัย

ขณะที่ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จะประสานผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ ในการแจ้งเข้ารับวัคซีน ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าว จะจัดฉีดวัคซีนในกลุ่มที่มีโอกาสเกิดการระบาด เช่น ในโรงงานขนาดใหญ่ ตลาดใหญ่ เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่นั้น

พร้อมทั้ง ยืนยันว่า วัคซีนที่ได้มา กรมควบคุมโรค จะกระจายออกไปทันที เช่น วัคซีนซิโนแวค 2.5 ล้านโดส ได้มีการกระจายไปยังต่างจังหวัด และพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้ง ปริมณฑลเกือบทั้งหมดแล้ว เพื่อฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด ส่วนวัคซีนอีก 1 ล้านโดส อยู่ระหว่างการรอเอกสารเพิ่มเติมชุดสุดท้ายจากบริษัทต้นทาง หากครบแล้วจะกระจายจัดสรรวัคซีนไปในแต่ละพื้นที่ทันที

นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดหาวัคซีน สำหรับประชากรไทย ในปี 2565 โดยให้เร่งรัดเจรจากับผู้ผลิตที่มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 ที่สามารถครอบคลุมไวรัสกลายพันธุ์ ส่งมอบได้ภายในไตรมาส 1 ของปี 2565 และเร่งรัดการแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้วยแพลตฟอร์มใหม่ สนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนแบบรองรับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส แนวทางการขึ้นทะเบียนวัคซีนที่วิจัยพัฒนาในประเทศ และแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศในการทดสอบวัคซีนในมนุษย์ระยะที่ 3 โดยจะรายงาน ศบค.รับทราบต่อไป

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง