สมาคมคราฟท์เบียร์ร้องศบค.-กทม. ผ่อนปรนให้ขายเครื่องดื่มถึง 23.00 น. โดยมั่นใจว่าพร้อมปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรคหลังได้เข้าประชุมกับคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจและกรมควบคุมโรคแล้ว
วันนี้ (25 มกราคม 2563) สมาคมคราฟท์เบียร์แห่งประเทศไทยเดินทางยื่นหนังสือยังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ขอให้ผ่อนปรนให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้และขอความกรุณาผ่อนปรนให้ร้านอาหารเปิดให้นั่งได้ถึงเวลา 23.00 น.
โดยก่อนหน้านี้ (21 มกราคม 2564) สมาคมคราฟเบียร์ได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ และได้รับข้อแนะนำจากกรมควบคุมโรคว่าหากจะเปิดได้ควรมีมาตรการการควบคุมโรคทั้งหมด 3 ด้าน
1.) มีการเว้นระยะห่างของลูกค้าตามมาตรของรัฐ
2.) ไม่มีการแชร์แก้วเครื่องดื่มโดยเด็ดขาด
3.) ไม่ให้มีการลุกขึ้นเต้นภายในร้าน
“ทางสมาคมคราฟท์เบียร์มีความมั่นใจ ว่าผู้ประกอบการทุกร้านจะสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขได้ ทางสมาคมฯจึงใคร่ขอความกรุณาคณะกรรมการ ศบค. ได้โปรดผ่อนปรนให้ร้านอาหารสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อการบริโภคภายในร้านได้ ถึงเวลา 22.00 น. และอนุญาตลูกค้านั่งได้ถึง 23.00 น. เพื่อให้ธุรกิจร้านอาหารและพนักงานสามารถอยู่รอดได้” เอกสารที่สมาคมฯ มอบให้แก่ ศบค.ระบุ
นายอาชิระวัสส์ วรรณศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมคราฟท์เบียร์ ชี้ว่าช่วงเวลาสามอาทิตย์ที่ผ่านมามีการบังคับใช้คำสั่งให้ร้านอาหารสามารถให้นั่งรับประทานในร้านได้ถึงเวลา 21.00 น. และและไม่อนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านได้ ทำให้ร้านคราฟท์เบียร์ไม่สามารถทำธุรกิจได้ตามปกติ รายได้ลดลงกว่า 90% เนื่องจากรายได้หลักของผู้ประกอบการร้านคราฟท์เบียร์มาจากการบริโภคภายในร้านเป็นหลัก ในขณะที่ต้นและทุนและค่าใช้จ่ายไม่ได้ลดลงเลย ผลกระทบดังกล่าวนี้ส่งผลต่อร้านคราฟท์เบียร์ไม่น้อยกว่า 500 ร้านทั่วประเทศ มีผู้ประกอบการและพนักงานที่ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 5,000 คน
