ตำรวจกองปราบฯ แถลงผลการจับกุม ‘ประสพโชค’ รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย คดีจ้างวานฆ่า นายก อบต.บางสมบูรณ์ มั่นใจหลักฐานที่รวบรวมได้ มีมากเพียงพอในการดำเนินคดี ขณะที่ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมสอบปากคำ นายประสพโชค นิ่มเรือง รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย และอดีตนายก อบต.บางสมบูรณ์ หลังจับกุมตัวตามหมายจับของศาลอาญาในข้อหา เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องรับโทษโดยให้ที่พำนัก หรือโดยซ่อนเร้น หรือช่วยโดยประการใดๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
โดยตำรวจตรวจค้นและยึดปืนพกสั้นขนาด ออโตเมติก ยี่ห้อ วอลเทอร์ ขนาด 7.65 มม. พร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืน ขนาด 7.65 มม. จำนวน 6 นัด อยู่บริเวณใต้เบาะฝั่งคนขับในรถยนต์ของนายประสพโชค
ซึ่งก่อนการแถลงข่าว ตำรวจได้สอบปากคำผู้ต้องหาก่อนจะนำตัวกลับไปควบคุมต่อ โดยนายประสพโชค เปิดเผยว่าเรื่องทั้งหมดที่เชื่อมโยงมาหาตนนั้นขอปฏิเสธทุกอย่าง ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนพร้อมต่อสู้คดีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตน ส่วน 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ คือ นายวัช, กุมารดำ และกุมารขาว ตนเองไม่รู้จัก
ส่วนประเด็นเรื่อง เชื่อมโยงทางการเมืองหรือไม่นั้น นายประสพโชค กล่าวว่า ใครจะเชื่อมอะไรยังไงก็ได้หมด ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยว่าคดีนี้ตำรวจมีหลักฐานว่า นายประสพโชค เป็นผู้บงการฆ่าในคดีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 3 คน ใช้อาวุธสงครามกราดยิงรถของ ผศ.ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ซึ่งหลังจากนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลพิจารณาว่าหลักฐานมีเพียงพอหรือไม่ แต่ทางตำรวจมั่นใจว่าหลักฐานที่รวบรวมได้มานั้น มีมากเพียงพอในการดำเนินคดีกับนายประสพโชค
ส่วนเรื่องที่ กุมารขาว หนึ่งในทีมสังหารได้ฆ่าตัวตายในระหว่างการหลบหนีนั้น จากการที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐาน และพยานแวดล้อมเชื่อว่าถูกนายประสพโชค ที่เป็นผู้จ้างวาน กดดัน จนทำให้เกิดความเครียด และผูกคอตายในเวลาต่อมา
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การจับกุมดังกล่าวอยู่ในช่วงการเลือกตั้ง เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับทางการเมืองหรือไม่ และเหตุใดถึงไปขอศาลออกหมายจับในเวลานี้ พล.ต.ท.จิรภพ ยืนยันว่า กองปราบทำงานตามพยานหลักฐาน เมื่อมีพยานหลักฐานที่สามารถไปขอออกหมายจับได้ ก็ต้องรีบดำเนินการ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่มีใครกดดันให้ตำรวจดำเนินการต่างๆ ได้ โดยเห็นได้จากหลายคดีที่ผ่านมา กองปราบปรามก็สามารถทำงานได้ โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ










