‘บิ๊กโจ๊ก’ แถลงจับแล้ว 2 ชาวจีน ร่วมกันอุ้ม ตัดนิ้ว เพื่อนร่วมชาติก่อนเรียกค่าไถ่ 35 ล้านบาท สืบสวนพบเคยร่วมทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ขัดแย้งประโยชน์กัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายจาง เต๋อ หลง หรือต้าเต้า อายุ 30 ปี และนายจาง เหวิน เจี๋ย หรือ อาถัง อายุ 27 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันก่อเหตุ อุ้ม นายเหริน ไฮ่ ป๋อ เพื่อนร่วมชาติ ไปเรียกค่าไถ่จำนวน 35 ล้านบาท
โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา นายเหริน ได้ส่งข้อความบอก น.ส.อริสรา ซึ่งเป็นแฟนว่า จะไปดื่มสุรา กับ นายจาง เต๋อ หลง จากนั้น น.ส.อริสรา ไม่สามารถติดต่อนายเหริน ได้
จนต่อมาวันที่ 30 ต.ค. 65 เวลา 10.00 น. มีการส่งภาพนายเหริน ถูกพันเทปปิดตา และมีนิ้วที่ถูกตัดวางอยู่ให้กับแฟนสาวของนายเหริน และแจ้งว่าให้หาเงินมาให้ จำนวน 1,000,000 USDT หรือประมาณ 35 ล้านบาทแลกกับชีวิตของนายเหริน น.ส.อริสรา จึงได้มาแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้การช่วยเหลือนายเหรินโดยด่วน
ในระหว่างนั้น น.ส.อริสราได้ทยอยโอนเงินไปให้รวมเงินประมาณ 3 แสนบาท ก่อนที่ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 65 นายเหรินสามารถหลบหนีออกมาจากที่กุมขังได้ และได้รับการช่วยเหลือจนพ้นอันตราย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ก่อนที่จะติดต่อไม่ได้ นายเหริน ได้ส่งโลเคชั่นมาให้แฟนสาว ว่าไปคุยธุระกับนายต้าเต้า ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบ พบหลักฐานเป็นเชือกที่ใช้ในการมัดนายเหริน และทราบว่าได้มีคนจีนชื่อ นายจาง เหวิน เจี๋ย หรือ อาถัง เป็นผู้มาเช่า ซึ่งหลังจากที่นำรูปถ่ายให้นายเหรินดูแล้ว ยืนยันว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุร่วมกันกับนายต้าเต้าจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองราย และสามารถจับกุมได้
จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุและนายเหริน ได้เคยร่วมกันทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยกันมาก่อน ต่อมามีความขัดแย้งกันในเรื่องของผลประโยชน์ ทำให้ต้องแยกย้ายกัน และต่อมาตามวันเวลาเกิดเหตุ ได้นัดเจอกันเพื่อจะพูดคุยเรื่องผลประโยชน์กัน ก่อนที่กลุ่มผู้ต้องหาจะตัดสินใจลักพาตัวนายเหรินเพื่อเรียกค่าไถ่ดังกล่าว
หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเพิกถอนวีซ่าของนายเหริน และน้องชาย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดความขัดแย้งดังกล่าว และดำเนินการผลักดันตามกฎหมายต่อไป










