ปลัดมหาดไทย-ผบ.ตร. ประกาศสงครามยาเสพติด ขีดเส้นตาย 31 ต.ค. 65 ต้องมีข้อมูลผู้เสพผู้ค้า เร่งนำผู้ติดยาเข้าสู่การบำบัด เพื่อลูกหลานและคนไทยทุกคนปลอดภัย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานร่วมการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตามที่พี่น้องประชาชนชาวไทยและคนทั่วโลกได้รับทราบโดยทั่วกันแล้วว่าได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสร้างความเศร้าเสียใจไปทั่วประเทศและทั่วโลก ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบจากปัญหายาเสพติด จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกันนำเหตุการณ์ที่เศร้าสลดสะเทือนขวัญในครั้งนี้ มาร่วมกันพูดคุยกำหนดมาตรการเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหา ทั้งในเชิงป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษา เพื่อจะให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่ปล่อยให้สิ่งที่ไม่ดีมาทำให้เกิดความสูญเสียและเกิดความไม่เป็นปกติสุข
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ขีดเส้นตายว่า ภายในวันที่ 31 ต.ค. 2565 เราจะมีข้อมูลผู้เสพผู้ค้ายาเสพติดทั่วประเทศในเบื้องต้น เพื่อนำมาใช้วางแผนการแก้ไขปัญหาร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน สนธิและกรองข้อมูลอีกชั้นหนึ่งในระดับพื้นที่ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เป็นแม่งานในการค้นหาผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ว่าเป็นการจับกุม 1 เม็ด 2 เม็ด สามารถแจ้งข้อมูลได้ทั้งหมด
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการประกาศสงครามกับปัญหายาเสพติดทุกประเภท ทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ด้วยการเป็นกลไกหลักในการประสานงานระดับพื้นที่ โดยขอให้มั่นใจว่าฝ่ายปกครองจะเต็มที่ ทั้งการกวาดบ้านตนเอง คนของเราต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และพุ่งเป้าทำทุกมาตรการอย่างจริงจัง
“ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ตอนนี้ไฟยาเสพติดไหม้ประเทศของเราแล้ว เราจึงต้องประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างเข้มข้น ต้องช่วยกันทำให้ผู้เสพเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา บุคลากรภาครัฐในทุกสังกัด ทุกพื้นที่ ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และได้รับการสุ่มตรวจทุกคน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
ด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย วางมาตรการกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างจริงจัง “เพราะปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ”
โดยจากสถิติพบว่า ในปัจจุบันสถานการณ์ผู้เสพยาเสพติดมีแนวโน้มเพิ่ม และมีผู้เสพจำนวนมากยังไม่ได้เข้ารับการบำบัดในทางสาธารณสุข ในจำนวนเหล่านั้น มีกลุ่มผู้เสพที่เกิดอาการทางจิตเวช มีภาวะคลุ้มคลั่ง ทำร้ายร่างกายบุพการี คนใกล้ชิด และพี่น้องประชาชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและผู้กำกับการสถานีตำรวจทั่วประเทศ ต้องเข้าไปเยี่ยมชุมชนบ่อยครั้งเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อมั่น อันจะเกิดความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน
ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้รับข้อมูลเบาะแสเรื่องยาเสพติดกับกระทรวงมหาดไทย โดยฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ ซึ่งเราได้ทำงานประสานบูรณาการกันอย่างต่อเนื่องแต่ทั้งนี้ แม้ว่าเราจะทำงานในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหนักเพียงใด จะจับได้กี่ล้านเม็ด ถ้ายังไม่เป็นที่พึงพอใจของพี่น้องประชาชน ก็ถือว่าประเมินไม่ผ่าน ต้องยึดเอาความพึงพอใจของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องค้นหาให้เร็ว เพื่อจะได้แก้ปัญหาด้วยกัน
โดยนอกจากจะมีคณะกรรมการชุดใหญ่แล้ว ต้องมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการย่อย 3 ส่วน คือ คณะอนุกรรมการป้องกัน มีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก คณะอนุกรรมการปราบปราม มี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล อัยการ เป็นหน่วยงานหลัก และคณะอนุกรรมการบำบัดรักษา มีกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลัก โดยทุกส่วนต้องทำงานในลักษณะ Area บูรณาการแต่ละหน่วย มีโต๊ะข่าวในพื้นที่เพื่อให้มีข้อมูลในการดำเนินการ










