วันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.กาฬสินธุ์ มีฝนตกหนักกระจายเป็นวงกว้างทั่วทั้งจังหวัดตลอดคืนที่ผ่านมาจนทั้งช่วงบ่าย ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุโพดุตามด้วยพายุคาจิกิ
ปริมาณฝนทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวในวันนี้ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ขณะนี้เขื่อนลำปาวมีน้ำ 1,023 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 52 เปอร์เซนต์ จากปริมาณเก็บกักสูงสุด 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ทางเขื่อนลำปาวได้บริหารจัดการน้ำโดยการกักน้ำไว้ 100 เปอร์เซนต์ เพื่อใช้งานในฤดูแล้งปี 2563
ขณะที่นายเกริกกรุง สุภัควนิช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำห้วยสีทนที่ตั้งอยู่ด้านทิศเหนือตัวเมืองกาฬสินธุ์ ขณะนี้มีปริมาณน้ำเต็มอ่าง 100 เปอร์เซนต์แล้ว โดยมีปริมาณเก็บกักสูงสุด 3,500,000 ลูกบาศก์เมตร มีการบริหารจัดการน้ำโดยผ่านอาคารน้ำล้นตามธรรมชาติลงลำน้ำปาว ผ่านตัวเมืองกาฬสินธุ์ อยู่ในการควบคุมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สถานการณ์ปกติและตรวจสอบความแข็งแรงของสันเขื่อน มีความมั่นคง แข็งแรง ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
พร้อมกันนั้นได้มีการติดตั้งท่อกาลักน้ำ 8 ชุด สามารถช่วยระบายน้ำได้วันละ 400,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ไว้สำหรับถ่ายเทน้ำเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มติดลำน้ำปาวในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์วันนี้ ระดับน้ำยังคงมีท่าทีที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
https://www.facebook.com/WorkpointNews/photos/a.153956988306921/1024048787964399/?type=3&theater
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 19.24 น. นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงสถานการณ์พายุคาจิกิว่า ทิศทางวกกลับไปทางเวียดนามแล้ว หลังจากช่วงบ่ายพายุเลื่อนมาอยู่เมืองสาละวัน สปป.ลาวตอนใต้ ทิศทางมุ่งเข้าสู่ จ.อุบลราชธานี ทำให้ภาคอีสานตอนล่างมีฝนมากขึ้นตั้งแต่มุกดาหารลงมา ฝนกระจายและต้องเฝ้าระวังมากขึ้น
.
แต่ช่วงหลัง 16.00 น. พายุเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนออกจากที่จะมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย โดยหมุนกลับไปอยู่ระหว่างเมืองเว้และดองฮอย ชายฝั่งเวียดนาม มีทีท่าเคลื่อนตัวออกสู่ทะเล สิ่งที่ดีคือทำให้ผลกระทบที่มีต่อประเทศไทยที่ฝนตกต่อเนื่องจะลดน้อยลงเป็นลำดับ สถานการณ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีแนวโน้มจะคลี่คลาย จากนั้นสิ่งที่เหลืออยู่จะเป็นร่องความกดอากาศต่ำและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้มีฝนฟ้าคะนองเป็นปกติ
.
ส่วนพายุลูกใหม่หลังคาจิกิ ในระยะเวลาใกล้นี้ไม่พบว่ามีส่วนไหนที่จะปรากฎมาอีกครั้ง
