สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า สมาชิก 9 จาก 13 คนของสภาเมืองมินนีอาโพลิส ประกาศว่าจะทำการเสนอตัดงบประมาณ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงกรมตำรวจ หลังจากที่อดีตตำรวจ 4 นายของเมืองนี้เกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม จอร์จ ฟลอยด์
ลิซ่า เบนเดอร์ ประธานสภาเมืองกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาต้องการที่จะแยกกรมตำรวจมินนีอาโพลิสออกเป็นส่วน ๆ และจะพยายามสร้างระบบใหม่ ที่จะช่วยให้เมืองเป็นที่ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง โดย 9 เสียงที่มีอยู่ในตอนนี้ทำให้ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถถูกคัดค้านโดยสภาเมืองได้
อย่างไรก็ตาม นายกเทศมนตรีเมืองมินนีอาโพลิส จาคอบ เฟรย์ ก็ได้ออกมาประกาศว่าเขาไม่สนับสนุนการกระทำดังกล่าว โดยเชื่อว่าปัญหาการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ สามารถแก้ไขได้ด้วยการปฏิรูปองค์กร และนั่นก็ทำให้เขาโดนผู้ชุมนุมส่งเสียงโห่ด้วยความไม่พอใจ
การประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วสหรัฐทำให้เริ่มมีการเปลี่ยนลงภายในของตำรวจแล้ว ปัจจุบันมินนีอาโพลีสเป็นหนึ่งในอีกหลายเมืองที่มีคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้วิธีการกดไปที่คอระหว่างการจับกุม และยังห้ามไม่ให้ตำรวจใช้อาวุธสำหรับการสลายฝูงชนจนกว่าจะได้รับอนุมัติจากหัวหน้ากรมตำรวจเท่านั้น
เป็นที่น่าสังเกตว่าในบางเมืองอย่างเช่น ซีแอตเติล ที่เว็บไซต์เดอะฮิลล์ (The Hill) รายงานว่าพอมีคำสั่งห้ามใช้แก๊สน้ำตาออกมา ตำรวจจึงหันไปใช้ระเบิดแสง (Flash-bang) และสเปรย์พริกไทยแทน
ส่วนทางเมืองอื่น ๆ ก็เริ่มมีการออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องของงบประมาณแล้วเช่นกัน โดยทางนายกเทศมนตรีเมืองลอสแอนเจลิส เอริก การ์เซตติ บอกว่า เขาเห็นด้วยที่จะทำการลดงบประมาณของกรมตำรวจแอลเอ (LAPD) ลง 100-150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่เบื้องต้นมีการของบมาทั้งสิ้น 1.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก บิลล์ เดอ บลาซิโอ ออกแถลงการณ์ว่าจะมีการโยกงบประมาณบางส่วนของกรมตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) ไปใช้กับด้านเยาวชนและสังคมสงเคราะห์แทน โดยจะยังเหลืองบเพียงพอที่จะทำให้เมืองยังคงความปลอดภัยอยู่
สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกานั้น แต่ละรัฐมีอำนาจในการออกกฎหมายและจัดสรรงบประมาณของตนเอง โดยรัฐที่มีงบประมาณมากที่สุดในปีปัจจุบันคือ แคลิฟอร์เนีย ที่มีงบถึง 2.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.73 ล้านล้านบาท)
