คนเอเชียไถฟีดอย่างน้อยครึ่งวัน ฟิลิปปินส์-ไทย มีชีวิตพึ่งพามือถือมากสุด

ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา การเชื่อมต่อกับมือถือได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเอเชีย โดยนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ผู้คนมีส่วนร่วมทางดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ มีการปรับรูปแบบสื่อ และเปลี่ยนแปลงวิธีเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน เช่น ประชุมออนไลน์ และซื้อของออนไลน์ เป็นต้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดทั่วเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แถมผู้คนยังมีไลฟ์สไตล์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย

‘เทเลนอร์ เอเชีย’ จึงทำการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือกว่า 8,000 คนใน 8 ประเทศ (บังกลาเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม) ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้ข้อสรุปออกมาเป็น 5 เทรนด์สำคัญของการเล่นเน็ต-ใช้มือถือ ดังนี้

1. ไถฟีด ไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง

– ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบทั้งหมด (94%) พกมือถือติดตัวเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งวัน และมีบางส่วน (21%) พกโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา

– ฟิลิปปินส์และไทยมีชีวิตที่พึ่งพาอยู่กับโทรศัพท์มือถือมากที่สุด

– ผู้ตอบแบบสอบถามในไทยส่วนมาก (82%) คาดว่าการใช้งานมือถือของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

2. ชีวิตดิจิทัลที่ล้ำหน้า คน Gen Z

– แม้ว่าปัจจุบันคนจะใช้เวลากับอุปกรณ์พกพา แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับทักษะด้านดิจิทัลในการก้าวให้ทันเทคโนโลยีอยู่

3. (ขาด) ความไว้วางใจในโลกดิจิทัล

– ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบทั้งหมด (93%) มีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยจากการใช้งานมือถือ

– โดยส่วนมาก (98%) กล่าวว่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเป็นปัจจัยหนึ่งที่ว่าพวกเขาจะใช้อุปกรณ์อย่างไร เมื่อไร และที่ไหน รวมถึงแอปที่พวกเขาใช้และบริการที่พวกเขาเข้าถึง

4. เข้าถึงการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน

– มากกว่าครึ่ง (67%) มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับศักยภาพของเทคโนโลยีมือถือในการพัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

5. เทคโนโลยีมือถือกำลังปิดช่องว่างทางดิจิทัล

– ผู้หญิงเห็นศักยภาพในการใช้มือถือมากขึ้น เพระการเชื่อมต่อผ่านมือถือได้เพิ่มทางเลือกในการทำงานและสร้างรายได้ ทำให้เข้าถึงข้อมูลและโอกาสทางการศึกษาได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าผู้ตอบแบบสอบถามเพศชาย

[ ไทยยืนหนึ่งไม่ตกเทรนด์ ]

– 68% รู้สึกว่าโทรศัพท์มือถือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 58% สำหรับทุกตลาดที่ทำแบบสำรวจ

– 27% มีความกังวลน้อยที่สุดในเรื่องปัญหาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานมือถือ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 58%

– คนไทยแสดงความมั่นใจสูงสุดเมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศอื่นๆ ว่าจะสามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคต โดยมีเพียง 63% ที่มีความกังวลในด้านนี้ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 85%

– 49% เห็นประโยชน์และมีแนวโน้มที่จะใช้งานมือถือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยโดยรวมที่ 37%

– 55% ของคนไทยในเมือง คาดว่าจะใช้งานมือถือเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้ เทียบกับค่าเฉลี่ย 41% ของคนที่อาศัยอยู่นอกเมือง

นอกจากนี้ เทเลนอร์ยังเสริมว่า ควรสังเกตความแตกต่างในการตอบสนองระหว่างคนอาศัยอยู่ในเมืองและพื้นที่ชนบท เพราะสิ่งนี้จะแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นอย่างต่อเนื่องในการขยายขอบเขตการเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลไปยังคนที่อยู่ในชนบท ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สถาบันการเงินควรสังเกต เพื่อขจัดความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึง

การใช้มือถือสามารถก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อทั้งบุคคลและสังคมโดยรวม ตั้งแต่การเข้าถึงบริการที่จำเป็นมากขึ้น ไปจนถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อควรเป็นส่วนสำคัญของการแก้ปัญหาเพื่อรับมือกับความท้าทายที่สำคัญบางอย่างที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา :

https://www.telenor.com/media/newsroom/press-releases/telenor-asia-digital-lives-decoded-live/