หมอเด็กแนะนำ 13 วิธีเลี้ยงลูก ที่ดูเหมือนอยู่บนเส้นบางๆ ระหว่างการแสดงความรัก กับการละเมิดสิทธิ
วันที่ 27 ต.ค. 2564 พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร เจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน โพสต์เฟซบุ๊กแนะวิธีเลี้ยงลูก ระบุว่าสังคมกำลังมีประเด็นถกเถียงกัน ถึงการแสดงความรักที่ดูเหมือนอยู่บนเส้นบางๆ ระหว่างการแสดงความรัก กับการละเมิดสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย ไปจนถึงดูคล้ายการคุกคามทางเพศซึ่งมีการแสดงความเห็นที่หลากหลาย
และยังระบุอีกว่า เราเติบโตมากับวัฒนธรรม ที่พ่อแม่มักคิดว่าตนเองเป็นเจ้าชีวิต และมีสิทธิเหนือเนื้อตัวร่างกายลูก เราตี หยิก ด่า ทำร้าย ใช้บุหรี่จี้ หรือ แม้แต่การแสดงความรัก เราก็หลงลืมที่จะเคารพ ‘สิทธิ’ ‘อำนาจในการตัดสินใจ’ ไปจนถึง ‘เคารพพื้นที่ส่วนตัว’
พร้อมแนะนำ 13 วิธีการเลี้ยงลูก เพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน
1. พ่อแม่ต้องทำให้ลูกเข้าใจ ว่าลูกมีสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตัวเองเสมอ
2. พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างของการไม่ละเมิดสิทธินั้นเสียเอง เพื่อให้เด็กไม่เกิดความสับสน หรือเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะปฏิเสธผู้ใหญ่ไม่ได้
3. หลายครั้งด้วยความรักและความใกล้ชิด เด็กๆ ไม่สามารถกล้าปฏิเสธ สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด และบางครั้งเด็กก็เล็กเกินไป จนแยกไม่ได้ระหว่างการแสดงความรักกับการถูกล่วงละเมิด
4. การล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศในเด็ก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากคนในครอบครัว ดังนั้นผู้ใหญ่ในบ้านต้องช่วยกันสอดส่องดูแล
5. สอนลูกเรื่อง ‘สิทธิในร่างกายตนเอง’ ลูกเป็นเจ้าของร่างกายตนเอง มีสิทธิปฏิเสธ ไม่ให้ใครมาวุ่นวาย ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นคนในหรือนอกครอบครัว
6. การแสดงความรัก ควรอยู่ในขอบเขตที่ไม่มากเกินไป และไม่สร้างความอึดอัดใจให้กับผู้รับ
7. การแสดงความรัก การแหย่ การเล่น ไม่ควรลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว เช่น พื้นที่ในร่มผ้า หน้าอก ก้น อวัยวะเพศ และทุกพื้นที่ที่ลูกดูมีความอึดอัดใจเมื่อเราไปสัมผัส
8. แม้เราจะแสดงความรักแต่เมื่อลูกแสดงอาการปฏิเสธ แข็งขืน หรือดูอึดอัดใจ ให้เคารพความรู้สึกของลูกเสมอ
9. สอนลูก ใช้ประโยคที่เข้าใจง่าย เช่น “มีบางคนเข้ามายุ่งกับร่างกายของเรา โดยที่เราไม่เต็มใจ และไม่อยากให้ทำ เช่น บางคนมาจับหน้าอก มายุ่งกับอวัยวะเพศ มากอด หอม หรือบางทีก็ให้เราไปจับของส่วนตัวเค้าโดยที่เราไม่ยินยอม แบบนี้ถือเป็นเรื่องผิดปกติ และแม่อยากให้ลูกบอกผู้ใหญ่ให้รับรู้เสมอ”
10. บอกลูกเสมอ ไม่ว่าจะอย่างไร ‘การถูกละเมิดไม่ใช่ความผิดของผู้ถูกกระทำ’ ไม่ใช่ความผิดเพราะเราเป็นเด็ก เพราะเราแต่งตัวไม่เรียบร้อย ใส่ขาสั้น เมา หรือไม่ดูแลตัวเองให้ดี ‘ไม่มีใครมีสิทธิที่จะล่วงละเมิดใคร’ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรก็ตาม
11. บอกลูกว่าพ่อแม่จะอยู่กับลูกเสมอ ถ้ามีใครมาทำอะไรที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดใจ ให้บอกพ่อแม่ได้ ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นใครก็ตาม
12. ข้อนี้ขอกาสามดาว *** ไม่บังคับให้ลูกกอดหอมใคร หรือให้ใครมากอดหอมลูก โดยที่ลูกรู้สึกไม่เต็มใจ ลูกจะสับสนในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ และไม่แน่ใจในสิทธิในเนื้อตัวร่างกายตนเอง
13. การโพสต์อะไรลงใน social ให้คิดไว้เสมอว่าสิ่งนั้นจะอยู่ที่นั่นตลอดไป ถ้าเป็นไปได้ควรไตร่ตรองสิ่งที่จะลงไป และขออนุญาตลูกก่อนลงทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุด ณ ขณะนี้…ขณะที่เราคิดว่าการทำให้เรื่องนี้เป็นกระแสสังคม จะนำไปสู่การช่วยเหลือเด็กคนหนึ่ง โปรดอย่าลืมว่า ทุกอย่างจะกลายเป็น digital footprint ที่ทำร้ายเด็กคนหนึ่งและครอบครัวตลอดไป… ได้อย่างเจ็บปวดที่สุด เราอาจช่วยเขาได้ ด้วยการไม่สร้างบาดแผลทางใจให้หยั่งรากลึก
แนะนำว่าใครเจอกรณีที่สงสัยการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ควรแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 หรือ ศูนย์พึ่งได้ OSCC ที่มีในโรงพยาบาลใหญ่แทบทุกที่ ให้ช่วยเข้าไปประเมินถึงความเหมาะสม นี่เป็นสิทธิและหน้าที่ ที่เราทุกคนพึงกระทำได้











