
ประเด็นคือ – ‘ดีเอสไอ’ แจงไม่มีข้อสั่งการให้ยุติคดีรถหรูเลี่ยงภาษี ตามที่เผยแพร่ข่าวผ่านเว็บไซต์นสพ.แห่งหนึ่ง พร้อมยืนยันต้องเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านเว็บไซต์ นำเสนอประเด็น “เบื้องหลังยุติดำเนินคดีรถหรู “บอย ยูนิตี้” เดือดจ่อยื่นฟ้องดีเอสไอ” เนื้อหาข่าวตอนหนึ่ง ระบุว่า มีการเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษยุติการดำเนินคดีและให้กรมศุลกากรใช้คำสั่งกรมศุลกากร ที่ 317/2547 อนุโลมให้กับผู้ประกอบการรถยนต์นั่งสำเร็จรูปทุกบริษัทถือว่าสมบูรณ์ และเป็นที่ยุติ ทั้งยังระบุอีกว่าหากกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่คืนรถที่ยึดไว้ผู้ประกอบการบางรายจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนั้น

นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ (บอย ยูนิตี้)
ทีมโฆษกดีเอสไอ ได้ออกเอกสารชี้แจง ระบุว่า ดีเอสไอไม่เคยได้รับข้อสั่งการใดๆ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ในการปฏิบัติงาน ดีเอสไอได้รับข้อสั่งการจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ปฏิบัติตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ดำเนินคดีให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เอื้อประโยชน์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และให้ธุรกิจดำเนินการได้โดยไม่ทำผิดกฎหมาย

แฟ้มภาพ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหลบเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์ โดยสำแดงราคาอันเป็นเท็จ รวม 15 ราย กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ประกอบการที่สำแดงราคาเท็จมารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว รวมถึงกลุ่มบริษัทนิชคาร์ กรุ๊ป และกลุ่มบริษัทเอสทีทีออโต้คาร์ของนายภาณุศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือบอยยูนิตี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานในสำนวนคดีเพื่อสรุปความเห็นสั่งฟ้อง และส่งสำนวนคดีไปให้อัยการนอกจากนี้ ยังเร่งตรวจสอบหลักฐานราคารถที่แท้จริงจากประเทศต้นทางเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายให้ครบทุกราย
กรมสอบสวนคดีพิเศษยืนยันว่าในการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมายทุกประการ จึงชี้แจงมาเพื่อทราบ
ขอบคุณภาพจากเพจ the bangkokinsight









