มุมมองจากสังคมเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างในสหรัฐอเมริกา ผลสำรวจล่าสุดในกลุ่มคนอเมริกัน 49 % มองว่าเรียนจบ ปริญญาตรีไปก็ ‘ไม่คุ้ม’ ได้รายได้ดี ส่วน 22% เชื่อว่าค่าใช้จ่ายเรียนปริญญา ‘คุ้มค่า’ แม้จะต้องกู้ยืมเงิน
Pew Research Center ได้ทำการสำรวจความเห็นชาวอเมริกันถึงวุฒิการศึกษามีผลต่อเศรษฐกิจและการทำงานหารายได้ของพวกเขาหรือไม่ ท่ามกลางสังคมอเมริกันที่กำลังแสดงความสงสัยเกี่ยวกับ ‘คุณค่า’ ของการเรียนระดับ ‘ปริญญาตรี’ เนื่องจากมีข้อสังเกตว่า คนรุ่นใหม่ที่ไม่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีบางส่วนมีผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้น
โดย Pew Research พบว่า หลังจากค่าแรงตกต่ำมานานหลายสิบปี คนทำงานรุ่นใหม่ในสหรัฐ (อายุระหว่าง 25-34 ปี) ที่ไม่มีวุฒิปริญญาตรี มีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา และความมั่งคั่งโดยรวมของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
การสำรวจพบว่ากลุ่มคนระดับวัยผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่กล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งหรือสำคัญมากที่จะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี 4 ปี เพื่อที่จะได้งานที่มีรายได้ดีในเศรษฐกิจปัจจุบัน
และอีกประมาณครึ่งหนึ่งหรือ 49% กล่าวว่าการได้รับปริญญาในปัจจุบันนั้นสำคัญน้อยกว่าเพื่อที่จะได้งานที่มีรายได้ดีมากกว่า 20 ปีที่แล้ว
และมี 22% ที่บอกว่าค่าใช้จ่ายในการเรียนปริญญา 4 ปี นั้นคุ้มค่า แม้ว่าบางคนจะต้องกู้ยืมเงินก็ตาม
ผลสำรวจนี้เกิดขึ้นท่ามกลางค่าเล่าเรียนที่ต้องจ่ายสูงขึ้น และหนี้ค่าเล่าเรียน หนี้นักศึกษาที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจบางอย่างของมหาวิทยาลัยลดลง
จากผลสำรวจทั้งเรื่อง ค่าใช้จ่ายและคุณค่าการเรียนระดับปริญญาตรีที่ถูกตั้งคำถาม โดยรวมแล้วแนวโน้มเหล่านี้ทำให้นักศึกษาและผู้ปกครองกำลังเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากมากขึ้นเกี่ยวกับการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาน่ันเอง
ขณะที่บทความใน The New York Times ตั้งคำถามที่น่าสนใจว่า ประโยชน์ของการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ต้องการการเรียนรู้ด้านปรัชญา สังคมศาสตร์ และการใช้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณมากขึ้น เพราะในยุคที่เราแข่งกับเทคโนโลยี แข่งกับเอไอ สุดท้ายความ wisdom ของมนุษย์และวิชาอย่างปรัชญาจะทำให้เราก้าวนำและหยั่งลึกยิ่งกว่าเทคโนโลยี
ในบทความตั้งคำถามว่าอุดมคติการศึกษาด้านศิลปศาสตร์กำลังหายไป หมายถึงการศึกษาวงกว้างที่ต้องการผลิตบุคลากรเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมด้วยความรับผิดชอบในโลกที่ซับซ้อนและแตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ ปลูกฝังการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นวิชาความรู้ที่เติบโตส่วนบุคคลผ่านการสร้างสรรค์ตัวเอง
โดยมองว่า สถาบันการศึกษาควรกลับมาให้ความสำคัญวิชากลุ่มศิลปศาสตร์ เพราะจากการสำรวจเมื่อปีที่แล้วโดย Inside Higher Ed พบว่า ฝ่ายวิชาการของสถาบันการศึกษาระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในอเมริกา เกือบ 2 ใน 3 เห็นพ้องกันว่าการศึกษาด้านศิลปศาสตร์กำลังถดถอย และเกินครึ่งรู้สึกว่านักการเมือง อธิการบดี วิทยาลัย และคณะกรรมการมหาวิทยาลัยไม่เห็นอกเห็นใจต่อกลุ่มวิชาศิลปศาสตร์มากขึ้นเรื่อยๆ
นักศึกษาที่มีความทะเยอทะยานและกระตือรือร้นที่จะได้งานที่ปรึกษา งานภาคการเงิน หรือทำงานในบริษัทเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียง จะพบว่ามันง่ายมากที่จะทิ้งหลักสูตรในสาขาศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการศึกษาแบบเสรีนิยม
นอกจากการเรียนเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้เฉพาะด้าน เชี่ยวชาญเฉพาะทางแล้ว แต่การได้เรียนในกลุ่มวิชาศิลปศาสตร์จะเน้นสอนการใช้เหตุผลและการแก้ปัญหา
ถ้าเรียนรู้ทั้งทักษะเพื่อไปประกอบอาชีพกับเรียนรู้กลุ่มวิชาศิลปศาสตร์สองอย่างนี้ ก็เรียกได้ว่า นี่เป็นทักษะที่ยั่งยืน และเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับบริษัทและประเทศ










