ช่วงเดือนสุดท้ายของปีแบบนี้ หลายคนเริ่มวางแผนการเดินทางเพื่อพักผ่อน และแน่นอนว่า จังหวัดเชียงใหม่มักเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ด้วยเสน่ห์ที่พร้อมทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติอันงดงาม และกิจกรรมหลากหลายที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยว

สำนักข่าว TODAY มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษที่จัดโดย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group และ มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ในพิธีส่งมอบและสำรวจ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ถูกปรับปรุงใหม่ให้เป็น “ห้องเรียนธรรมชาติ” ที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน และต้องบอกว่า…เส้นทางป่าหลังบ้านของคนเชียงใหม่แห่งนี้ได้ขโมยหัวใจไปเต็มๆ
[ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี]
เบื้องหลังการเดินทางที่แสนประทับใจนี้ คือความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำของ EGCO Group ที่มีความเชื่อว่า “ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี”
กว่า 23 ปี ที่ EGCO Group ได้ก่อตั้งและสนับสนุน มูลนิธิไทยรักษ์ป่า องค์กรสาธารณกุศลเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญ หนึ่งในภารกิจหลักคือการพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงคุณค่าของป่าต้นน้ำอย่างใกล้ชิด

ปี 2568 มูลนิธิฯ ได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปรับปรุง “เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” ซึ่งเป็นเส้นทางฯ ลำดับที่ 11 ของมูลนิธิฯ โดยเป็นหนึ่งในเส้นทางฯ ที่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศเฉพาะถิ่นที่สำคัญ
[3 เส้นทางย่อย “พิชิตยอดดอยปุย” สัมผัสป่าหลังบ้านในมุมที่แตกต่าง]
การปรับปรุงเส้นทางฯ ยอดดอยปุยครั้งนี้ครอบคลุมเส้นทางย่อย 3 เส้นทาง พร้อมจัดทำ Trail Head 4 จุด ระเบียงชมวิว 3 จุด และป้ายสื่อความหมายธรรมชาติ 24 ป้ายตลอดแนวเส้นทาง โดยออกแบบให้เส้นทางฯ แข็งแรง ปลอดภัย เป็นมิตรกับระบบนิเวศ และกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม

เส้นทางย่อยที่ 1 : เส้นทางฯ ยอดดอยปุย (ยอดดอยปุย – ดอยหัวหมู) นิเวศประวัติศาสตร์บน ยอดดอยปุย ระยะทางไป-กลับ 4.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไป-กลับประมาณ 3.5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาพื้นที่ป่าต้นน้ำบนดอยสูง การจัดการพื้นที่ทางนิเวศวิทยา และการชมวิวทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่

เส้นทางย่อยที่ 2 : เส้นทางฯ มรกต (มรกต – ดอยหัวหมู) พื้นที่ที่ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติให้เชื่อมโยงกัน ระยะทางไป-กลับ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไป-กลับประมาณ 2.5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูนก หรือการเดินสัมผัสธรรมชาติเพื่อเติมพลังให้กับตัวเอง

เส้นทางย่อยที่ 3 : เส้นทางฯ ระยะไกล (ยอดดอยปุย – ดอยหัวหมู – บ้านขุนช่างเคี่ยน) ระยะทางไป-กลับ 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไป-กลับประมาณ 5 ชั่วโมง มีความลาดชัน เหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายแข็งแรง ชอบความท้าทาย และต้องการเรียนรู้ทั้งธรรมชาติและวิถีชุมชน โดยเดินต่อจากดอยหัวหมูที่มีทัศนียภาพสวยงาม ไปตามแนวกันไฟ สู่หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน ชุมชนชาวม้งในพื้นที่ป่าดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย
[EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า – กรมอุทยานฯ : พันธมิตรแห่งป่าต้นน้ำยั่งยืน]

‘นายสมเกียรติ สุทธิวานิช’ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบัญชีและการเงิน EGCO Group และรองประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า กล่าวว่า “เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุยเปรียบเสมือน ‘เส้นทางฯ ป่าหลังบ้านของเมืองเชียงใหม่’ เพราะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่มากที่สุดแห่งหนึ่ง รวมทั้งเป็นป่าต้นน้ำและแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศเฉพาะถิ่นที่สะท้อนคุณค่าของป่าดิบเขาภาคเหนือ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสทั้งความสวยงามของธรรมชาติและคุณค่าของป่าดิบเขาภาคเหนือ ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองเชียงใหม่ จนนำไปสู่การเกิดความตระหนักและจิตสำนึกในการร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน”

‘นายอรรถพล เจริญชันษา’ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวชื่นชมว่า EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เป็นตัวอย่างภาคเอกชนที่สำคัญ ที่ร่วมมือกับกรมอุทยานฯ ในการพัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้มีความปลอดภัยและสะดวกมาตั้งแต่ปี 2551 ความร่วมมือนี้สอดคล้องกับแนวทางของกรมอุทยานฯ ในการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนภารกิจด้านการอนุรักษ์ ส่งเสริม และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ความร่วมมือในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนภาพการทำงานร่วมกันของภาครัฐและเอกชน แต่ยังได้รับเกียรติจาก ‘นายศิวกร บัวป้อง’ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานแห่งความสำเร็จ เพื่อตอกย้ำว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุยคือมรดกล้ำค่าของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง
[บทพิสูจน์ “นักเดินป่าฝึกหัด”]
ในฐานะคนที่ไม่ค่อยได้เที่ยวธรรมชาติบ่อยนัก ยอมรับว่าตอนแรกแอบกังวล แต่พอได้เริ่มก้าวเดิน ความกังวลก็หายไป เพราะเส้นทางเดินนั้นถูกออกแบบมาอย่างดี มีช่วงที่ต้องไต่ระดับสลับกับทางราบให้เดินเบาๆ เหมือนได้พักเหนื่อย ทำให้การเดินป่าครั้งแรกที่ยอดดอยปุยสนุกกว่าที่คิดไว้มาก

-
- อากาศเป็นใจ เย็นสบายตลอดวัน สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปได้เต็มปอด
- วิวหลักล้าน ความรู้แน่นๆ ทุกก้าวที่เดินคือความตื่นตาตื่นใจ ป่าดิบเขาที่นี่อุดมสมบูรณ์เกินบรรยาย ทั้งต้นไม้ใหญ่เล็ก พืชพรรณที่เขียวขจี
- มนต์เสน่ห์แห่งเสียงป่า นกนานาชนิดที่ร้องเพลงประสานเสียงอย่างไพเราะจนต้องหยุดฟัง ยิ่งทำให้การเดินป่าครั้งนี้ค่อยๆ เปลี่ยนจากความตื่นเต้น กลายเป็นความประทับใจจนแทบไม่รู้ตัว

สิ่งที่ได้รับมากกว่าความสวยงาม คือ “ข้อคิด” จากทีมงานมูลนิธิไทยรักษ์ป่าที่ย้ำว่า ปัจจุบันการเดินเทรลได้รับความนิยมมาก แต่บางครั้งเราอาจเผลอเหยียบย่ำพืชพื้นราบที่อ่อนไหวและหาดูยาก เช่น ลิลลี่ป่า (เจ้าแตรวง) หรือ ขิงป่า โดยไม่ตั้งใจ การมีเส้นทางที่ได้มาตรฐานและป้ายเตือนจึงสำคัญมากในการช่วยให้เราเป็นนักท่องเที่ยวที่รับผิดชอบ

ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวธรรมชาติใกล้เมืองเชียงใหม่ที่ทั้งสวยงาม ให้ความรู้ และเลือกเส้นทางเดินได้หลากหลาย ลองมาสัมผัส “เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” แห่งนี้ด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะหลงรักป่าดิบเขาภาคเหนือเหมือนกับเรา ที่ตั้งใจไว้แล้วว่า ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ จะขอแวะมาเยี่ยมชมและเดินป่าที่นี่อีกแน่นอน

เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย
เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมเส้นทางฯ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น.
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
โทร. 0 5321 0246, 0 5321 0244, 086 420 5242










