สาธิต เผยทหารอียิปต์ไม่ให้ความร่วมมือตรวจเชื้อ ต้องเจรจาให้สถานทูตช่วย แถมยังออกจากที่พักไปห้างโดยพลการทั้งที่ห้ามไว้แล้ว เตรียมตรวจย้อนกลับหน่วยงานใดบ้างเกียวข้องการอนุมัติให้เข้าประเทศ

จากกรณีที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิดที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยกรณีแรกลูกของทูตจากแอฟริกา พบว่าคนในครอบครัวเดียวกันไม่ได้ไปพักในสถานทูตตามข้อตกลงแต่ไปพักที่คอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งใน กทม. ส่วนทหารอียิปต์ที่พักที่โรงแรม ใน จ.ระยอง พบมีการออกจากที่พักไปยังห้างสรรพสินค้า และพบภายหลังว่ามี 1 คนติดเชื้อโควิด อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นคนเดียวกับที่ไปที่ห้างสรรพสินค้าหรือไม่
วันที่ 13 ก.ค. 2563 นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ในรายการ workpointTODAY ว่า ทั้ง 2 กรณี ต้องรอการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน แต่ยอมรับว่ามีข้อบกพร่องและเป็นบทเรียนที่ต้องแก้ไขในโอกาสต่อไป ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการตามแผน
สำหรับการให้ข้อมูลกับประชาชน โดยหลักแล้ว เมื่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงจะไม่บอกชื่อสถานที่เพื่อไม่ให้มีผลกระทบ แต่ตนเห็นว่าควรจะบอกความจริงกับประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความวิตกกังวล และจะได้ป้องกันตนเอง ซึ่งกรณีระยอง น่าจะรู้กันทั้งห้างและโรงแรมแล้ว และตนก็เปิดเผยข้อมูลไว้ในเพจเฟซบุ๊กของตน คือ “หมอตี๋ สาธิต ปิตุเตชะ”
“ส่วนของการแถลงทางการเขาจำเป็นต้องไม่พูด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบในวงกว้าง สมมติถ้าแถลงไปแล้วสอบสวนข้อมูลย้อนกลับไป ข้อเท็จจริงไม่เป็นไปตามนั้น คนแถลงก็จะมีปัญหาถูกฟ้องหมิ่นประมาท เรื่องนี้เข้าใจได้ แต่ในการส่วนสอบสวนโรคถ้ามีข้อมูลต้องแจ้งประชาชน ความเห็นส่วนตัวของตนคิดว่าต้องบอกกับประชาชน”

นายสาธิต กล่าวถึง กรณีที่ระยองว่า เครื่องบินทหารอียิปต์ C130 เดินทางมาจากปากีสถาน กรณีแบบนี้โดยหลักการต้องได้รับการอนุญาตทั้งการบินเข้าน่านฟ้า การลงจอด และการตรวจคนเข้าเมือง การเข้าพักต้องพักในสถานที่ที่กำหนดและห้ามออกนอกสถานที่ ซึ่งกรณีที่ระยองก็ไม่ได้มีการอนุญาตให้ไปเดินห้าง
“เรียนตามตรงนะครับ ทหารกลุ่มนี้ไม่ให้ความร่วมมือในการที่เราจะไปตรวจเชื้อเขาเขาไม่ยอม เราให้ตำรวจไปเจรจาเขาก็ไม่ยอม จนสุดท้ายต้องประสานไปที่สถานทูตประเทศเขา เขาถึงให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่มีการแจ้งว่าห้ามออกนอกสถานที่ แต่เขาก็ไปโดยพลการ เราบอกแล้ว เราเตือนแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ความร่วมมือกับเรา”

แฟ้มภาพ
ส่วนทหารอียิปต์มีการใช้แอปพลิเคชั่นติดตามตัวหรือไม่ พรุ่งนี้ตนจะไปติดตามข้อมูลทั้งหมด เพื่อจะได้สั่งการป้องกันการแพร่ระบาดทุกกลุ่ม ทั้งเสี่ยงมาก เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงน้อย ตอนนี้มีการปิดโรงแรมไปแล้ว ส่วนห้างต้องดูข้อมูลจากกล้องวงจรปิดว่าไปที่ไหนบ้าง การสอบสวนที่จะให้ได้ข้อมูลไม่ใช่ฟังจากคำพูดอย่างเดียว
ต้องสอบสวนย้อนกลับว่าไปที่ไหนไปสัมผัสใครบ้าง ทั้งเรื่องพื้นที่และตัวบุคคล เช่น หากเขาไปซื้อของที่ร้าน ต้องไปเอาคนที่พูดจากับเขาที่มีความเสี่ยงมากไปกักตัว ติดตามอาการ รับการตรวจ ส่วนคนที่เดินสวนกัน ถือว่าเสี่ยงปานกลาง ก็ต้องไปกักตัวเอง ติดตามอาการเช่นกัน เสี่ยงน้อย ต้องดูว่าจะมีมาตรการอย่างไร ส่วนสถานที่ต้องปิดเพื่อทำความสะอาด
นายสาธิต กล่าวด้วยว่า ต้องขอโทษประชาชนที่อาจจะเป็นปัญหาในเรื่องนี้ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข จะทำเต็มที่และจะเปิดเผยข้อมูลให้โปร่งใสที่สุดไม่ปิดบัง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อในวงกว้างจนเกิดเป็น Super Spreader ในรอบ 2 เราจะทำเต็มที่ครับ