อีลอน มัสก์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในซีอีโอที่ประสบความสำเร็จที่สุดในธุรกิจยุคใหม่
นอกจากแนวคิดที่ล้ำยุคและความกล้าได้กล้าเสียแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เขามีคือการคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถ ในการเข้ามาทำงานยากๆ ซึ่งน้อยคนบนโลกเคยมีประสบการณ์มาก่อน
ในการให้สัมภาษณ์กับ AUTO BILD เมื่อปี 2557 อีลอน มัสก์ เคยบอกไว้ว่า ผู้ที่จะมาทำงานให้เขา ไม่จำเป็นต้องมีใบปริญญา หรือแม้กระทั่งจบมัธยมปลายด้วยซ้ำ
แล้วเขาใช้หลักการอะไรในการรับพนักงาน?

ซีอีโอของเทสลาและสเปซเอ็กซ์ระบุในงาน World Government Summit ปี 2560 ว่า เขาต้องการหลักฐานที่แสดงออกว่ามีความสามารถอันโดดเด่น หนึ่งในคำถามที่เขาถามกับผู้ที่มาสมัครงานทุกคนคือ
“เล่าให้ผมฟังถึงปัญหาที่ยากที่สุดที่คุณเคยพบในการทำงานมา และคุณแก้มันได้อย่างไร”
เช่นเดียวกับการประกาศรับสมัครงานผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว เมื่อเดือนพฤศจิกายนปลายปีที่แล้ว ระหว่างที่เขาเยี่ยมชมโรงงานเทสลาแห่งใหม่ที่เบอร์ลิน
When sending your resume, please describe a few of the hardest problems you solved & exactly how you solved them
— Elon Musk (@elonmusk) November 6, 2020
อีลอน มัสก์ ทวีตบอกกับผู้ติดตามว่าให้ส่งเรซูเมเข้ามา และให้อธิบายด้วยว่า ปัญหาที่ยากที่สุดที่เคยแก้คืออะไร และแก้มันได้อย่างไร จากนั้นเขาจะเป็นผู้สัมภาษณ์ด้วยตัวเอง
เหตุผลที่ อีลอน มัสก์ ให้ไว้คือ ถ้าคนๆ นั้นแสดงถึงการประสบความสำเร็จในบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษกว่าปกติ สิ่งเหล่านั้นย่อมมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต และเชื่อว่า ผู้ที่เคยแก้ปัญหามาแล้วจริงๆ จะสามารถอธิบายได้ แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ
คนที่แอบอ้างว่าเคยทำสิ่งนั้นสิ่งนี้มาโดยที่ไม่มีประสบการณ์ตรง จะเจอปัญหาในคำถามนี้ เมื่อโดนขอให้อธิบายไปทีละจุดอย่างละเอียด ส่วนผู้ที่เคยทำงานมาจริงๆ จะสามารถตอบได้ยาวๆ แบบไม่ติดขัด และไม่พลาดในจุดที่สำคัญ
หากอ้างอิงจากผลการศึกษาของ Journal of Applied Research in Memory and Cognition ที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่าเทคนิคการยิงคำถามในลักษณะนี้ใช้ได้ผลจริง
คนที่พูดความจริงจะพยายามอธิบายในสิ่งที่ถูกถาม ขณะที่คนโกหกจะพยายามหลีกเลี่ยงจุดสำคัญ และปิดบังบางสิ่งบางอย่าง
การให้ผู้ถูกสัมภาษณ์อธิบายเหตุการณ์ ยิ่งละเอียดมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสสูงที่จะจับผิดได้มากขึ้นเท่านั้น










