ดูเหมือนดีลซื้อกิจการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดดีลหนึ่งในวงการเทคโนโลยีอย่างดีลเข้าซื้อทวิตเตอร์โดย ‘อีลอน มัสก์’ จะส่อแววล่มเสียแล้ว
หลังล่าสุด มหาเศรษฐีซีอีโอบริษัท Tesla ออกมาประกาศว่าอาจยุติการเข้าซื้อทวิตเตอร์ โดยระบุสาเหตุว่ามาจากการที่ทวิตเตอร์ละเมิดข้อตกลงในการควบรวมกิจการ คือไม่ทำตามคำขอของเขาที่ให้ส่งข้อมูลจำนวนบัญชีสแปมและบัญชีปลอมหรือแอคหลุมให้
หลังอีลอน มัสก์ ออกมาประกาศดังกล่าว หุ้นทวิตเตอร์ก็ร่วงทันที 5% ในเช้าวันจันทร์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
มัสก์เชื่อว่าทวิตเตอร์กำลังต่อต้านเขาแบบจริงจัง และยังขัดขวางสิทธิ์ในการทราบข้อมูลของเขาด้วยการปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ในเอกสารการยื่นหลักทรัพย์ที่เพิ่งมีการปรับปรุงแก้ไขในวันนี้
ประเด็นล้มดีลนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ย้อนไปเมื่อเดือนก่อน มัสก์บอกว่าขอชะลอการซื้อทวิตเตอร์ออกไปก่อน จนกว่าทวิตเตอร์จะพิสูจน์ได้ว่ามีจำนวนแอคหลุมในสัดส่วนที่น้อยกว่า 5% เนื่องจากมัสก์ประเมินว่าแอคหลุมนั้นน่าจะมีสัดส่วนราว 20% ของจำนวนแอคเคานต์ทั้งหมด
ด้าน Parag Agrawal ซีอีโอทวิตเตอร์ ออกมาโต้ว่าบริษัทมีพนักงานที่คอยตรวจสอบบัญชีผู้ใช้เพื่อดูว่ามีแอคที่ดูเป็นบอทอยู่มากน้อยขนาดไหน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมได้ เพราะข้อกังวลเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว
ซึ่งมัสก์ไม่เห็นด้วยอย่างแรงกับการประเมินของทวิตเตอร์
แต่ถึงอย่างนั้น การล้มดีลของมัสก์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในเอกสารข้อตกลงการควบรวมกิจการ มีข้อกำหนดที่อนุญาตให้ทวิตเตอร์บังคับให้มัสก์ทำดีลนี้ให้สำเร็จ
นั่นหมายความว่า หากเรื่องนี้ไปจบลงในศาล ทวิตเตอร์อาจได้รับคำสั่งศาลให้บังคับมัสก์ให้ควบรวมกิจการให้สำเร็จ แทนที่จะจบลงด้วยการล้มดีลและจ่ายเงินค่าปรับสำหรับการละเมิดใดๆ
ที่มา:
