แม้ว่า Tesla จะมีโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Gigafactory ในเซี่ยงไฮ้ ทุ่มทุนในจีนมหาศาล แต่รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในจีนตอนนี้กลับไม่ใช่ยี่ห้อ Tesla
ตัวเลขจากสมาคมรถยนต์ส่วนบุคคลของจีน (China Passenger Car Association หรือ CPCA) เปิดเผยว่า 9 เดือนแรกหรือ 3 ไตรมาสแรกของปี 2021 (มกราคม – กันยายน) รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดคือ ‘Hongguang Mini’ ตามมาด้วย Tesla รุ่น Model 3 และรุ่น Model Y
-Hongguang Mini ยอดขายรวม 256,661 คัน
-Tesla รุ่น Model 3 ยอดขายรวม 111,751 คัน
-Tesla รุ่น Model Y ยอดขายรวม 92,933 คัน
หากเอายอดขายรวมของ Tesla รุ่น Model 3 บวกกับ Tesla รุ่น Model Y ก็ยังตามหลัง Hongguang Mini อยู่ถึง 5 หมื่นคัน
Hongguang Mini คือใคร?
Hongguang Mini หรือ ‘หงกวง มินิ’ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจิ๋ว ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือ 3 ฝ่ายของแบรนด์จีนที่ชื่อ Wuling Automobile ร่วมมือกับ GM ค่ายรถยนต์จากสหรัฐฯ และค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จีน SAIC
Hongguang Mini คือรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 5,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยคันละประมาณ 150,000 บาท
ด้วยขนาดที่เล็ก ราคาจับต้องได้ รถยนต์ไฟฟ้าจิ๋วคันนี้ครองใจคนจีน และทำสถิติยอดขายเป็นประวัติการณ์แซงหน้า Tesla ตั้งแต่ต้นปี 2021 แล้ว ยกตัวอย่างในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Hongguang Mini มียอดขายในจีนทะลุ 3.6 หมื่นคัน แซงหน้า Tesla รุ่น Model 3 ที่เป็นรุ่นยอดนิยมขายในจีนได้เพียง 2.1 หมื่นคันเท่านั้น
อันที่จริงแล้ว Hongguang Mini เพิ่งเปิดตัวออกวางจำหน่ายในตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อกลางปี 2020 แต่ผ่านมาเพียง 1 ปีกว่า มียอดขายรวมทั้งหมดเกิน 4 แสนคันไปแล้ว
แม้ว่า Tesla ในจีนจะไม่ได้เป็นที่ 1 แต่ครองอันดับ 2 และ 3 ในตาราง ส่วนอันดับที่ 4 และ 5 ครองอันดับโดย BYD ค่ายรถยนต์จีนอีกรายที่กำลังมาแรง ส่วนนอกจาก Top 5 ไล่ลงไปก็จะเป็นแบรนด์จีนรายอื่นๆ เช่น Li Auto, XPeng, Changan ฯลฯ
ประเด็นของ Tesla ในเมืองจีนมีมาเรื่อยๆ ทำให้รุ่นเจ้าตลาดอย่าง Model 3 ตกอันดับ ซึ่งถ้าวิเคราะห์ดูจะพบว่า มีหลายปัจจัย ทั้งคู่แข่งที่หลากหลายและน่าสนใจ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ข่าวเมื่อช่วงกลางปีที่ Tesla ต้องเรียกรถคืนกว่า 3 แสนคัน เพราะทางการจีนระบุว่า กังวลเรื่องความปลอดภัยในรถยนต์ไฟฟ้า
จีนถือเป็นตลาดสำคัญของ Tesla เพราะรายได้รถยนต์ไฟฟ้ากว่า 1 ใน 5 ของ Tesla มาจากตลาดจีน ส่วนตัวเลขยอดขายใน 9 เดือนแรกของปี Tesla ยังมียอดขายที่ดี เพราะถ้ารวมยอดขายรุ่น Model 3 และ Model Y จะมียอดรวมกันมากกว่า 2 แสนคัน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (21 ตุลาคม 2564) Tesla เพิ่งเปิดประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีนี้ออกมา ปรากฏว่า มีรายได้มากถึง 1.376 หมื่นล้านดอลลาร์ (เกือบ 4.6 แสนล้านบาท) นับเป็นรายได้ในไตรมาสเดียวที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ส่วนในด้านของกำไร ไตรมาสนี้โกยไปสูงถึง 1.62 พันล้านดอลลาร์ (5.4 หมื่นล้านบาท) สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ทำไว้เพียง 1.14 พันล้านดอลลาร์ (3.8 หมื่นล้านบาท)
ส่วนถ้าไปดูในแง่ของหุ้น ตลอดปี 2021 หุ้นของ Tesla พุ่งขึ้นมาราวๆ 15% ส่วนค่ายรถยนต์จีนอย่าง Nio หุ้นร่วงไป 25% ส่วน XPeng หุ้นตกไปรวมๆ แล้วประมาณ 7%
การนับจำนวนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเคยเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายตั้งคำถาม อย่างในปี 2018 ที่มีข่าวว่ายอดขายของ Tesla ตกต่ำลง 70% ปรากฏว่าซีอีโอสตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้าจีนอย่าง WM Motor ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเลขที่ทางการจีนนับจำนวนยอดขายรถยนต์ในจีนนั้นไม่ถูกต้องและไม่แม่นยำ พร้อมทั้งบอกว่ามันเป็นข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด (misleading information)
ส่วนหน่วยงานของทางการจีนไม่ได้ตอบโต้ใดๆ และยังคงรายงานตัวเลขยอดขายรถยนต์ในจีนทุกไตรมาสต่อไป
*รู้หรือไม่ Hongguang Mini (หงกวง มินิ) รถยนต์ไฟฟ้าจิ๋ว มีข่าวว่าจะนำเข้ามาขายในตลาดประเทศไทย แต่ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3 แสนกว่าบาท
อ้างอิง – CNBC 1, 2, 3, AP, InsideEVs 1, 2, Bloomberg 1, 2
