ครั้งแรกของโลกอาหรับ ‘ดูไบ’ เนรมิตทะเลทราย เปิดงาน ‘World Expo 2020’ สุดอลังการ หวังผู้เข้าชมทะลัก 25 ล้านคน

ครั้งแรกของโลกอาหรับ ‘ดูไบ’ เนรมิตทะเลทราย เปิดงาน ‘World Expo 2020’ สุดอลังการ หวังผู้เข้าชมทะลัก 25 ล้านคน

เปิดฉากอย่างอลังการสมการรอคอยสำหรับงาน ‘World Expo 2020’ มหกรรมนวัตกรรมระดับโลก ครั้งที่ 36 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังจากถูกเลื่อนจัดงานมา 1 ปี ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19

ผู้สื่อข่าว workpointTODAY รายงานจากนครดูไบ ว่าการพิธีเปิดงาน World Expo 2020 Dubai ถูกจับตามองจากทั่วโลกในฐานะงานอีเวนต์ใหญ่ครั้งแรกของโลก หลังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่คาดว่าจะเป็นหมุดหมายในการกลับมาอัดฉีดการค้าและการลงทุนอีกครั้ง ซึ่งบรรยากาศพิธีเปิดเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ สมการรอคอยของชาวยูเออี เพราะถือว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประเทศแรกของภูมิภาคตะวันออกกลาง และสร้างความภาคภูมิใจแก่โลกอาหรับ ที่ได้รับคัดเลือกให้จัดงานแสดงนิทรรศการระดับโลกครั้งแรก 

โดยมีผู้นำคนสำคัญ ‘ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคทูม’ รองประธานาธิบดี, นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และทรงเป็นเจ้าผู้ครองรัฐดูไบ แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมด้วย ‘ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเย็ด อัล นาห์ยาน’ มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (CR) ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการโลกครั้งนี้  อีกทั้งมี ‘ชีค ฮัมดาน บิน โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคทูม’ มกุฎราชกุมารแห่งดูไบ ผู้อยู่เบื้องหลังในทุกรายละเอียดในการจัดงานครั้งนี้ ทรงมีพระราชดำรัสเปิด Expo 2020

 

ระหว่างพิธีเปิดงาน World Expo 2020 Dubai ยังมีเหล่าศิลปินระดับโลกเดินทางมาเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น ‘แอนเดรีย โบเชลลี’ นักร้องอิตาเลียน ‘เอลลี กูลดิ้ง’ นักร้องสหราชอาณาจักร ‘หลางหลาง’ นักเปียโนชื่อดังชาวจีน และ ‘โมฮัมหมัด อัลดู’ นักร้องชาวซาอุดิอาระเบีย สลับกับการแสดงพื้นเมือง

ที่สำคัญในช่วงพิธีเปิดถูกจัดขึ้นท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนต่างชาติและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมชมพิธีเปิดอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย

โดยมีการจัดถ่ายทอดสดผ่านรูปแบบออนไลน์ พร้อมติดตั้งจอขนาดใหญ่ทั่วเมืองตามสถานที่สำคัญ และแลนด์มาร์คต่าง ๆ ของยูเออี พร้อมถ่ายทอดสดทางสื่อโทรทัศน์ท้องถิ่น ผู้คนชาวยูเออีและนักท่องเที่ยวต่างสนใจและเฝ้ารอรับชมการถ่ายทอดสดกันตามห้างร้าน และร้านอาหารต่างๆ กันอย่างคึกคัก

ด้าน ‘รีม อัล ฮาชิมี’ รัฐมนตรีหญิง จากกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศยูเออี และผู้อำนวยการงาน Dubai Expo 2020 ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า ยูเออีมีความมั่นใจมากว่าในขณะที่มีการดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 มหกรรมนี้ก็ยังจะสามารถขับเคลื่อนโครงการที่น่าสนใจให้คนที่มาเข้าชมได้

“เราหวังว่าการเปิดนิทรรศการครั้งนี้ จะเป็นเหมือนการสนเข็มเย็บผ้า แต่ในขณะเดียวกันก็รักษาความปลอดภัยให้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมทุกคน” 

ทั้งนี้ ดูไบ ได้ใช้เวลาเตรียมการจัดนิทรรศการแห่งอนาคตนี้มา 8 ปีเต็ม นับตั้งแต่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพตั้งแต่ปี 2013 ก็ได้เริ่มเนรมิตพื้นที่ทะเลทรายที่แห้งแล้ง ขนาด 4.3 ตารางกิโลเมตร หรือราว 2,700 ไร่ ก่อสร้างให้เป็นพื้นที่จัดงานระดับโลกที่ยิ่งใหญ่นี้ พร้อมจัดสรรพื้นที่รองรับ 192 ประเทศที่เข้าร่วมจัดมหกรรมอนาคต โดยมีรายงานว่าดูไบ ใช้งบกว่า 6,800 ล้านดอลลาร์ ทุ่มทุนสร้างพื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าชมงานราว 25 ล้านคน ตลอดการจัดนิทรรศการทั้ง 6 เดือน (1 ต.ค.2564 – 31 มี.ค. 2565) พร้อมกับสร้างมูลค่ามหาศาลให้ประเทศได้ในระยะยาว คุ้มทุนที่จะชักชวนให้โลกหันมาร่วมมือกันผลักดันไปสู่ยุคของความยั่งยืน

แนวคิดหลักการจัด World Expo 2020 Dubai อยู่ภายใต้ธีม ‘Connecting Minds, Creating the Future’ หรือ “เชื่อมความคิด สร้างอนาคต” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวหน้าด้วยการเชื่อมโยงระหว่างผู้คน องค์กร และประเทศต่างๆ รวมถึงแบ่งปันความรู้ความก้าวหน้าทางนวัตกรรม และกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจในการร่วมมือกันสร้างสรรค์อนาคตอย่างยั่งยืน

โดยแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อย่อย ได้แก่ 1. โอกาส (Opportunity) 2. การขับเคลื่อน (Mobility) และ 3.ความยั่งยืน (Sustainability) โดยยูเออี มุ่งเน้นการจัดแสดงด้านวัฒนธรรม เทคโนโลยีและสถาปัตยกรรม ภายใต้แนวคิด ร่วมแรงความคิดเพื่อสร้างอนาคต มีการพูดถึงข้อท้าทายของโลกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้ง และการประคองภาวะเติบโตทางเศรษฐกิจ

ขณะที่ประเทศไทย ก็ได้เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการระดับโลกครั้งนี้ด้วย ซึ่ง Thailand Pavilion ตั้งอยู่โซน Mobility  จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “การขับเคลื่อนสู่อนาคต” (Mobility for the Future) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคต (Creating the Future) มีขนาดพื้นที่ 3,606 ตรม. หรือ 2.25 ไร่ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยเข้าร่วมในงาน World Expo

อย่างไรก็ดี งาน World Expo เป็นงานแสดงนิทรรศการระดับโลกที่จัดขึ้นประจำทุกๆ 5 ปี ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การระหว่างประเทศว่าด้วยงานมหกรรมโลก (Bureau of International Exposition, (BIE) หรือสำนักงานมหกรรมโลก โดยดูไบได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัด Expo 2020 ตั้งแต่ปี 2013 ต่อจาก Expo 2015 ที่จัดขึ้นที่มิลาน ประเทศอิตาลี สำหรับงานครั้งหน้าหรือ Expo 2025 จะจัดขึ้นที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น

ส่วนสภาพอากาศกำลังจะเปลี่ยนผ่านจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูหนาวพอดี ถือว่าอากาศดีน่าเดินเที่ยวตลอดเวลา 6 เดือน  โดยค่าเข้าชมประมาณ 95 AED ต่อวัน หรือราว 900 บาทต่อวัน แต่ก็ถือว่าเป็นงานที่คุ้มค่าต่อการเข้าชม เพราะไม่ได้เกิดขึ้นได้บ่อยๆ โดยเฉพาะความเป็นเจ้าภาพของดูไบ ซึ่งมีความโดดเด่นเรื่องนวัตกรรมอยู่แล้วก็จะจัดอย่างอลังการสมฐานะ

แท็กที่เกี่ยวข้อง
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง