Film Board ขึ้นบัญชีดำโปรดิวเซอร์รายการ Law of the Jungle ของโทรทัศน์ของเกาหลีใต้ ไม่ให้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยอีก และทำทัณฑ์บน บริษัทผู้ประสานงาน กรณีจงใจฝ่าฝืนกฎทาง Film Board ปมดำน้ำลงไปจับหอยมือเสือ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง นำมาประกอบอาหาร ล่าสุด ทางอุทยานฯ ได้แจ้งความเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนประสานสถานทูตเกาหลีใต้ และแจ้งให้มาให้ถ้อยคำ
จากกรณีรายการเกาหลี “Law of the Jungle” ที่ได้มาถ่ายทำในประเทศไทย และออกอากาศทางช่อง SBS เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอี ยอลอึม นักแสดงสาวชาวเกาหลี หนึ่งในผู้ร่วมรายการ ได้จับหอยมือเสือ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองมาประกอบอาหารที่บริเวณเกาะมุก ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์บนสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมากจนนำไปสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ กับตำรวจภูธรกันตังแล้ว ใน 2 ความผิด คือ ผิด พ.ร.บ.อุทยานฯ และผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยืนยันว่าจะสามารถเอาผิดได้ แม้ว่าผู้เกี่ยวข้องจะเดินทางกลับประเทศไปแล้ว เพราะมีหลักฐาน คลิปวีดีโอพร้อม โดยจะประสานผ่านทางสถานทูตฯ
“จุดที่เขาขอมา ขอมาในภาพรวม ไปถ่ายบริเวณอื่นเจ้าหน้าที่เราออกไปด้วย แต่จุดนี้ไม่มีโปรแกรม แล้วเขาแอบไปเอง เจ้าหน้าที่ของเราก็เลยไม่รู้” รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าว
นอกจากมีการไปถ่ายทำจุดอื่น ออกไปนอกพื้นที่ที่ขออนุญาต และไปตอนเลิกถ่ายทำแล้ว เลิกกอง โดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่
พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผู้กำกับการ สภ.กันตัง ระบุว่า ขณนี้อยู่ระหว่างการรอให้ถ้อยคำของบริษัทประสานงานของรายการดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจได้ส่งหนังสือแจ้งทางบริษัทไปแล้ว
ด้าน นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล ประธานคณะกรรมการพิจารณาคำขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ และวีดิทัศน์จากต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในไทย หรือ Film Board กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้รายละเอียดผ่านเฟซบุ๊ก Fuangrabil Nariaroj ระบุว่า ในหนังสือขออนุญาต ระบุชัดเจนว่าจะไม่มีการถ่ายทำ และการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในไทย แต่กลับพบการทำลายหอยมือเสือ
ดังนั้น Film Board ได้ขึ้นบัญชีดำ แบล็กลิสต์ โปรดิวเซอร์รายการนี้ ไม่ให้เข้ามาถ่ายทำในไทยอีก และทำทัณฑ์บน บริษัทผู้ประสานงานด้วย ยืนยันจะต้องลงโทษขั้นสูงสุดตอนนี้ตำรวจตั้งคณะทำงานด้านคดีขึ้นมา 1 ชุด และได้ทำหนังสือแจ้งให้บริษัทผู้ประสานงานเข้าให้ถ้อยคำแล้ว
“ตอนอนุญาตทางเกาหลีก็มีหนังสือยืนยันว่าจะเคารพกฎ แต่สุดท้ายก็ฝ่าฝืนจึงต้องลงโทษขั้นสูงสุดเท่าที่ทำได้คือ blacklist และดำเนินการทางกฏหมายต่อไป”
สำนักข่าวเกาหลีใต้ รายงานว่า ทางรายการได้ออกแถลงการณ์ขอโทษอย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่า รับทราบข้อกฎหมายเกี่ยวกับหอยมือเสือในไทยไม่ครบถ้วน
สำหรับ “หอยมือเสือ” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง อยู่ในบัญชี 2 ของพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ประเภท 2 ห้ามล่า ห้ามมีไว้ในครอบครอง ห้ามทำอันตราย ฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้รับการขึ้นบัญชี ในรายชื่อสัตว์และพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ และหายาก ในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดและสัตว์ป่าและพืชป่าทีาใกล้จะสูญพันธุ์ หรือไซเตส
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
