มุมมอง ‘ฟู้ดแพชชั่น’ มาตรการงดกินที่ร้าน 30 วัน รัฐควรปรับการสื่อสาร เร่งฉีดวัคซีนธุรกิจภาคบริการ

มุมมอง ‘ฟู้ดแพชชั่น’ มาตรการงดกินที่ร้าน 30 วัน รัฐควรปรับการสื่อสาร เร่งฉีดวัคซีนธุรกิจภาคบริการ

หลังกลางดึกของวันที่ 26 มิ.ย. 2564 รัฐบาลออกประกาศห้ามรับประทานอาหารในร้าน 30 วัน เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2564 นั้น

บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่า สะท้อนมุมมองต่อเรื่องนี้กับ TODAY Bizview ว่า สำหรับการประกาศดังกล่าว รัฐบางอาจต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการสื่อสารมากกว่านี้ เนื่องจากในตอนแรกแจ้งว่าปิด 15 วัน ทำให้เราเตรียมตัวและเตรียมการจัดการเพื่อรองรับกับการปิด 15 วัน แต่กลับมีการเปลี่ยนไปมาในภายหลัง

“อีกเรื่องคือระยะเวลาของการประกาศ ที่ประกาศเที่ยงคืนของวันเสาร์ที่ 26 มิ.ย. คือมันเหมือนไม่ให้เวลาในการทำงาน แต่ พวกเราก็เป็นแนวปรับตัวเร็วอยู่แล้ว ก็ประชุมวอร์รูมตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์เพื่อจัดการทุกอย่าง จริงๆ แล้วเรากะว่าต้นเดือนหน้าจะมีแคมเปญใหญ่ของแบรนด์พอดี เราก็มีการเรียกพนักงานมาเตรียมตัว แต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกหมด เราก็ต้องไปจัดการตัวเราเองว่าเราต้องจัดการสิ่งนั้นอย่างไร ไม่รวมถึงเรื่องวัตถุดิบ”

บุณย์ญานุช กล่าวอีกว่า สำหรับฟู้ดแพชชั่นแบ่งการจัดการออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกคือฝั่งอุด หรือเป็นฝั่งโอเปอเรชั่นที่จะจัดการกับเรื่องแรงงานที่เข้ามาดูแลวัตถุดิบ รวมถึงประสานต่อรองลดค่าเช่ากับศูนย์การค้า เนื่องจากรัฐไม่มีมาตรการช่วยเหลือในส่วนนี้

“อันที่สองคือฝั่งลุย หรือฝั่งมาร์เก็ตติ้ง ที่เราคงโฟกัสในมุมเดลิเวอรี่ ซึ่งมันก็ทดแทนไม่ได้อยู่แล้ว สั่งเทคโฮมหน้าร้านอันนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อันนี้ก็คงทำจากสิ่งที่เรา explore อยู่ ซึ่งอาจจะเป็นความโชคดีน้อยๆ ที่เรามีอยู่คือเรามีการพัฒนาไอเดียการยืมคืนกระทะ ที่เริ่มทดสอบตั้งแต่โควิดรอบแรก โดยทดลองให้บริการไป 3 สาขา จากนั้นก็ขยายเป็น 9 สาขา และภายในวันพุธนี้จะขยายเพิ่มให้ได้เป็น 16 สาขา”

บุณย์ญานุช กล่าวว่า ส่วนแบรนด์อื่นของฟู้ดแพชชั่นเรียกได้ว่าค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากแบรนด์ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ซึ่งคงต้องพยายามพัฒนาโปรดักต์รองรับบริการเดลิเวอรี่ได้ เพื่อให้อยู่รอด ส่วนแบรนด์แฟรนไชส์หมูทอดกอดคอ ที่ปัจจุบันแม้จะมีคนสนใจติดต่อเข้ามาค่อนข้างมาก แต่บริษัทยังไม่เปิดรับการขยายแฟรนด์ไชส์ เนื่องจากกำลังปรับโมเดลบางอย่างอยู่ เพื่อให้คนที่ซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วสามารถอยู่รอดได้

เมื่อถามถึงความเห็นในเรื่องมาตรการดังกล่าวของภาครัฐ บุณย์ญานุชกล่าวว่า สิ่งที่เห็นคือประเทศไทยกลายเป็นมุมกลับ เวลาเกิดเหตุแบบนี้ ธุรกิจรายเล็กหรือร้านอาหารถูกปิดก่อน ในขณะที่บางประเทศเขาปิดธุรกิจใหญ่ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า หรืออะไรที่ไม่ได้กระทบกับรายย่อยมากๆ

บุณย์ญานุชยังฝากถึงรัฐบาลในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยระบุว่า เรื่องแรกที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญคือการเข้าถึงวัคซีนในธุรกิจอาหารรวมไปถึงธุรกิจในหมวดบริการอื่นๆ ด้วย เช่น โรงแรม ขนส่งมวลชน เดลิเวอรี่ เรื่องที่สองคือควรเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนในจังหวัดที่เป็นไข่แดง เพื่อเร่งให้สามาถเปิดประเทศได้ และสามคือการมีมาตรการเยียวยาเพื่อรองรับการปิดร้านอาหารด้วย

“เท่าที่ฟังมา บางคนไม่ต้องรอให้ถึง 30 วันหรอก ร้านย่อยๆ อย่างข้าวเหนียวหมูปิ้ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ไม่ต้องรอให้ถึง 30 วันเขาก็ตายแล้ว เขาจะอยู่อย่างไร เขามีเงินทุนหมุนเวียนหมื่นกว่าบาท” บุณย์ญานุชกล่าว ก่อนจะทิ้งท้ายว่า

“ถ้าเปรียบเทียบประเทศเป็นบริษัท ซีอีโอคือคนที่ต้องหน้าที่นำบริษัทนี้ให้มีผลประกอบการเป็นบวก ทำให้ลูกค้ารัก ประชาชนเป็นเหมือนผู้บริโภค ถ้าซีอีโอที่ไม่เพอร์ฟอร์ม คิดว่าบริษัทควรจะทำอย่างไร รัฐบาลเข้ามาจากการเลือกตั้ง ประชาชนเขามอบสิทธิที่เขามีให้กับคุณแล้ว หรือต่อให้คุณจะเข้ามาด้วยวิธีไหนก็ตาม แต่ถ้าคุณได้รับการมอบหมายจากประชาชนให้เข้ามาดูแลประเทศ คุณคือความหวังของพวกเรา”

KanokwanWriterKanokwan
Business Journalist อดีตผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจออนไลน์ และ Forbes Thailand Online
สนใจเรื่องความเคลื่อนไหวของแบรนด์ เทคโนโลยี โลกอนาคต ชีวิตการทำงาน ความเหลื่อมล้ำ และความเป็นอยู่ของผู้คน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง