Ford เตรียมปลดพนักงานหลายพันคน ผันตัวไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

Ford เตรียมปลดพนักงานหลายพันคน ผันตัวไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

Ford เตรียมปลดพนักงานบางส่วนกว่า 4,000 ตำแหน่ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในบริษัท ก่อนผันตัวไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว โดยการเปลี่ยนแปลงจะมีผลแค่พนักงานออฟฟิศ ไม่กระทบกับพนักงานกลุ่มใช้แรงงาน

Ford บอกว่า การปรับลดพนักงานในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นไปที่พนักงานแผนกรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในฝ่ายวิศวกรรม การตลาด และการขาย ซึ่งการปรับในครั้งนี้ ยังรวมไปถึงการเกษียณอายุก่อนกำหนดด้วย

ก่อนหน้านี้ Jim Farley ซีอีโอของ Ford ตั้งเป้าให้บริษัทมีอัตรากำไรก่อนหักภาษี 10% ภายในปี 2026 และยังต้องการลดต้นทุนโครงสร้างประจำปีอีก 3 พันล้านดอลลาร์ จึงทำให้หลายๆ คนโยงสาเหตุการปลดพนักงานไปที่การตั้งเป้าในครั้งนั้น

โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Ford ได้ระบุแผนที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับซัพพลายเชนของรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการพัฒนาแบตเตอรี่ โดยเพิ่มสารเคมีชนิดใหม่เข้าไป เพื่อลดข้อจำกัดในการจัดหาวัตถุดิบการผลิตแบตอย่างนิกเกิล

ไม่เพียงเท่านั้น Ford ยังทำข้อตกลงกับบริษัท Contemporary Amperex Technology Co. ของจีนเพื่อนำแบตเตอรี่มาใช้กับรุ่นปลั๊กอินในอเมริกาเหนือ เช่น Mustang Mach-E รวมถึงกำลังหาพันธมิตรในธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทั่วโลก

ซึ่งความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ จะทำให้ Ford มีแบตเตอรี่และชิ้นส่วนเพียงพอสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 600,000 คันทั่วโลกภายในสิ้นปี 2023 โดยในระยะยาว Ford ตั้งเป้าหมายอัตราการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าต่อปีที่ 2 ล้านคันทั่วโลก 

Lisa Drake รองประธานฝ่ายอุตสาหกรรมของ Ford Model e และ EV มองว่า สิ่งสำคัญที่บริษัทผันตัวเองไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้า คือความคล่องตัว จึงทำให้บริษัทมีความจำเป็นที่จะลดขนาดทีมให้เล็กลง เพื่อที่จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้เร็วกว่า

ส่วน Farley บอกว่า Ford จำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายในส่วนการผลิตเครื่องยนต์สันดาปของธุรกิจ ถึงแม้จะสร้างรายได้และผลกำไรเกือบทั้งหมด

ซึ่งในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา Ford แบ่งบริษัทออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีอื่นๆ และอีกส่วนหนึ่งเพื่อจัดการกับรถยนต์ที่ใช้แก๊สและดีเซลแบบดั้งเดิม

ทั้งนี้ การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าต้องใช้ซอฟต์แวร์ และทักษะที่นอกเหนือไปจากความเชี่ยวชาญของพนักงานส่วนใหญ่ จึงทำให้บริษัทต้องปลดพนักงานออกเพื่อที่จะแข่งขันในยุครถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างทันท่วงที

จากข้อมูลของ Ford ยอดขายในอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. โดยรวมลดลง 11% จากปัญหาขาดแคลนตัวแทนจำหน่าย และราคารถยนต์ที่สูงขึ้น

ส่วน Ford ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ เมื่อเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นเกือบ 32% แซงหน้าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ เนื่องจากระบบการส่งมอบรถบรรทุกและ SUV พัฒนาขึ้น และการเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เป็นที่สนใจ

อย่างไรก็ตาม ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกในสหรัฐฯ ลดลงจาก 997,000 คัน เหลือเพียง 916,000 คัน หรือลดลงประมาณ 8% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 ที่ผ่านมา 

ปัญหาซัพพลายเชน ไมโครชิป และชิ้นส่วนยานยนต์อื่นๆ ที่ขาดแคลนทั่วโลก ยังคงส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตรถยนต์ ทำให้จำนวนตัวแทนจำหน่ายลดลง และทำให้ราคารถยนต์พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ 

โดย AlixPartners LLP บริษัทที่ปรึกษาบอกว่า ปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนจะยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์จนถึงปี 2024

อย่างไรก็ตาม John Lawler ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Ford มองว่า ความต้องการของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่งแม้ต้องเผชิญกับราคาที่สูงขึ้น

ที่มา : 

https://www.wsj.com/articles/ford-plans-to-cut-several-thousand-salaried-jobs-sources-say-11658356221?mod=business_lead_pos6

https://www.wsj.com/articles/fords-u-s-sales-increase-32-in-june-outpacing-broader-industry-11657034435?mod=article_inline

IttipatWriterIttipat
Business Journalist จบใหม่ไฟแรง ผู้มีความสนใจแวดวงธุรกิจ เทรนด์การตลาดรอบโลกที่คุณจะพลาดไม่ได้

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง