“ปิดป่าไม่แก้ปัญหาไฟ” ภาคประชาชนออกแถลงการณ์ถึง พล.อ.ประวิตร

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ร่วมกับองค์กรและประชาชนรวม 105 ราย ออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อ พอ.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณีไฟป่าภาคเหนือ ว่าการเผาป่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากการทำกินของประชาชน และไม่เห็นด้วยกับการปิดป่า

จากกรณีที่ พอ.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเชียงใหม่เพื่อติดตามความคืบหน้าของการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และมลพิษในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ โดยมีการรายงานผลการหารือว่า สาเหตุของไฟป่าเกิดจากการเผาพืชไร่และการเผาเพื่อหาของป่า

กป.อพช. จึงร่วมกับภาคประชาชน ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า สาเหตุหลักของการเผาไม่ได้มาจากวิถีชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชาติพันธุ์

หากดูจากข้อมูลจุดความร้อน (Hot Spot) และพื้นที่เผาไหม้ (Burn Scar) จะพบว่าไฟป่าส่วนใหญ่เกิดในเขตป่าอนุรักษ์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช แม้จะมีประชาชนบางส่วนทำกินทับซ้อนกับเขตป่าอนุรักษ์ แต่ชุมชนชาติพันธุ์เหล่านี้ก็มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดการป่าและวิธีจัดการไฟป่าตามภูมิปัญญาท้องถิ่น

และในขณะท่ีเกิดไฟป่าท่ัวภาคเหนือ ประชาชนจากหลายร้อยหมู่บ้านก็ช่วยกันดับไฟอย่างเข้มแข็ง จนหลายคนเสียชีวิตจากการช่วยป้องกันและดับไฟป่า

https://www.facebook.com/WorkpointNews/photos/a.153956988306921/1252473175121958/?type=3&theater

กป.อพช. ระบุอีกว่า ปัญหาไฟป่ามีความซับซ้อน ทั้งธรรมชาติของป่าผลัดใบที่จะทิ้งใบทุกปี หากมีใบไม้แห้งสะสมปริมาณมาก ใบไม้เหล่านี้จะกลายเป็นเพลิงเชื้อเมื่อเกิดไฟป่า ทำให้ผืนป่าถูกทำลายอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นจึงควรหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อแก้ปัญหานี้ด้วย อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาไฟป่ายังเกี่ยวข้องกับงบประมาณ ความไม่เป็นธรรมของรัฐ และระบบอำนาจรวมศูนย์

“ดังนั้น การชี้นิ้วกล่าวโทษว่าไฟป่ามีสาเหตุจากการเผาพืชเกษตรเพื่อยังชีพและการหาของป่าจึงเป็นการลดทอนปัญหาของไฟป่าให้เหลือเพียงประชาชนเป็นแพะรับบาป กลบเกลื่อนความล้มเหลวในการจัดการปัญหาเชิงระบบของรัฐและเป็นการตอกย้ำภาพมายาคติที่แฝงไว้ซึ่งอคติต่อกลุ่มชาติพันธุ์ และการใช้อำนาจอย่างไม่ยุติธรรมกับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีพื้นที่ทับซ้อนกับป่าอนุรักษ์ของรัฐ” กป.อพช. ระบุ

ทั้งนี้ กป.อพช. ไม่เห็นด้วยกับการปิดป่าฤดูร้อน เพราะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มองประชาชนเป็นต้นเหตุ แต่ไม่ได้มีแนวทางจัดการปัญหาไฟป่าให้สำเร็จ การกีดกันประชาชนออกจากป่าเท่ากับกีดกันไม่ให้ประชาชนช่วยดูแล ป้องกันและช่วยจัดการไฟป่า ยิ่งซ้ำเติมปัญหาระบบอำนาจรวมศูนย์

“กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องไม่ฉวยโอกาสท่ามกลางวิกฤตไฟป่าละเมิดสิทธิของชุมชนที่มีอยู่ในเขตป่าทุกประเภท รวมไปถึงการกลั่นแกล้งจับกุมคุมขังและดำเนินคดี”

กป.อพช. ย้ำว่า ทางออกที่ถูกต้องจำเป็นต้องอาศัยการร่วมมือจากทุกส่วน ท้ังชุมชน ประชาชนภายนอก ราชการ และภาคประชาสังคม