หลังจากส่งรถยนต์ไฟฟ้าขายในประเทศไทยมาแล้วสักพัก GAC AION ก็ได้มาปรากฏตัวครั้งแรกในงาน Motor Expo พร้อมเปิดตัว AION Y Plus 490 Premium โฉมใหม่ด้วยราคาสุดพิเศษ 999,900 บาท จากราคา 1,099,900 บาท ถึงวันที่ 11 ธ.ค. 2566 นี้เท่านั้น
เทคโนโลยี AION Y Plus 490 Premium ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า AEP พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง มาพร้อมอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ
แบตเตอรี่ขนาด 63.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดมากถึง 490 กม. มีระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,750 mm พร้อมด้วยพื้นที่วางขาด้านหลัง 1,022 mm ผู้โดยสารนั่งสบาย เบาะนั่งคู่หน้าสามารถพับราบเป็นเตียงขนาดใหญ่ได้ 1.8 เมตร
การอัปเกรดออปชันของ AION Y Plus 490 Premium มาอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งหมด 24 รายการ
- ภายนอกมาพร้อมกับระบบไฟสูงอัจฉริยะ พร้อมประตูฝาท้ายระบบไฟฟ้า และฟังก์ชัน VTOL
- ภายใน มีการเพิ่มระบบระบายอากาศเบาะที่นั่งคนขับ เบาะผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับได้ 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า
- กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารสามารถปรับได้ตามจังหวะดนตรี
- เบาะหลังมีการติดตั้งพนักพิงศีรษะและที่วางแขนตรงกลาง
- รวมถึงระบบการขับขี่อัจฉริยะและระบบความบันเทิง มีการอัปเกรดเพิ่มขึ้นถึง 12 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2+ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่
- แถมสาย Emergency Charging ให้กับลูกค้าที่ซื้อ AION Y Plus 490 Premium อีกด้วย
AION Y Plus 490 Premium มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ ACC with Stop & Go และระบบ ICA ที่ช่วยให้การขับขี่ในความเร็วสูงทั้งทางตรงและทางโค้งได้มีประสิทธิภาพ และฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ในสภาพจราจรติดขัด TJA (Traffic Jam Assist) ที่จะช่วยควบคุมเบรกและคันเร่งให้โดยอัตโนมัติ ช่วยลดภาระของผู้ขับขี่จากสถานการณ์รถติด ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดอีกต่อไป และยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอื่นๆอีกมากมาย เช่น FCW, AEB, LDW และ LKA ซึ่งทำหน้าที่แจ้งเตือนการขับขี่และช่วยเหลือผู้ขับในสภาวะที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ถือเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมกับระบบแสดงภาพพาโนรามา 540 องศา กำจัดจุดบอดในการมองเห็น และมีระบบสั่งการด้วยเสียงสามารถรองรับได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังมีระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย ระบบนำทางและฟังก์ชั่นฟังเพลงแบบออนไลน์ รวมถึงระบบควบคุมรถระยะไกลผ่าน Application เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้รถ
ขณะนี้ AION กำลังก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC จังหวัดระยอง ด้วยเงินลงทุนสูงถึง 2.3 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตมากกว่า 50,000 คันต่อปี โดยจะก่อสร้างเป็น 2 เฟส คาดว่าโครงการเฟสแรกจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2567
ปัจจุบัน AION ทำงานใกล้ชิดกับกลุ่มตัวแทนจำหน่ายหลายกลุ่มในประเทศไทย และมีศูนย์บริการแล้ว 35 แห่ง โดย 27 แห่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และภายในสิ้นปี 2566 นี้ AION มีแผนการที่จะขยายศูนย์จำหน่ายและศูนย์บริการให้ถึง 50 แห่ง
นอกจากนี้ยังมีศูนย์สต๊อกอะไหล่ ได้เริ่มเปิดให้บริการแล้ว สามารถส่งอะไหล่ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศไทย ในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย และในวันที่ 15 ธันวาคม จะมีการเปิดตัวแอปพลิเคชันที่รวบรวมข้อมูลต่างๆของแบรนด์ สามารถค้นหาตัวแทนจำหน่ายและนัดหมายทดลองขับได้ภายในคลิ๊กเดียว รวมถึงบริการหลังการขาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบควบคุมรถจากระยะไกล เช่น การล็อครถ และการเปิดแอร์ เป็นการมอบประสบการณ์การบริการดิจิทัลที่สะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้
นอกจากนี้ในงาน Motor Expo 2023 AION ยังได้นำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ของ GAC AION มาโชว์ด้วย อย่างเช่น Hyper GT รถสปอร์ตซีดานไฟฟ้า ระดับไฮเอนด์ที่ทำยอดขายได้เร็วที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัว และ Hyper HT เอสยูวีขุมพลังไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอนด์ รุ่นแรกจาก Hyper แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง
ปิดท้ายด้วย Hyper SSR ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า 100% ระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ถือเป็นรถซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูงระดับไฮเอนด์รุ่นแรก ภายใต้แบรนด์ Hyper จาก GAC AION










