เดือนธันวาคมจนถึงมกราคมเหมือนเป็นช่วงที่หลายคนลังเลเรื่องการเปลี่ยนงาน บ้างก็เริ่มหย่อนใบสมัคร บ้างก็เริ่มพิจารณาสถานการณ์ในบริษัทว่าน่าจะยั่งยืนหรือไม่? แต่ความไม่แน่ใจนี้อาจจะเกิดขึ้นไม่บ่อยกับกลุ่มคน ‘Gen Z’ จากผลการศึกษาของ Oliver Wyman บริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจในนิวยอร์ก
ผลการศึกษาจากจำนวน 10,000 คนที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 25 ปีในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร (UK) ส่วนใหญ่บอกว่า การเปลี่ยนงานบ่อยๆ หรือการตัดสินใจลาออกจากบริษัทบ่อยครั้ง (Job hopper) ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ไม่ใช่เรื่องที่ต้องอาย หรือรู้สึกผิด หากองค์กรนั้นๆ ไม่ตรงกับความต้องการของตัวเอง หรือไม่ตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตของพวกเขา
“กลุ่มคน Gen Z ต่างจากเจนอื่นคือ พวกเขาสามารถลาออกจากงานได้โดยทันที แม้ว่ายังไม่มีแผนสำรองก็ตาม” หนึ่งในบทสรุปจากการศึกษาดังกล่าว
[ สิ่งสำคัญของ Gen Z = บาลานซ์งานกับการใช้ชีวิต ]
Oliver Wyman บอกว่า ไม่ว่างานแบบไหน หรือองค์กรใด สิ่งที่คน Gen Z ต้องการมากที่สุดก็คือ ตารางงานที่ยืดหยุ่นได้เพื่อสร้างสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว
คน Gen Z ส่วนใหญ่มองว่า บาลานซ์เป็นเรื่องสำคัญมาก พวกเขาสามารถทุ่มเทให้กับงานหนักได้ แต่ก็มีการจัดสรรเวลาอื่นๆ ด้วย พวกเขาให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิต หรือแม้แต่การทำงานบ้านก็ตาม หากไม่เป็นไปตามนั้นก็สามารถ ‘ลาออก’ ได้ทันที
หนึ่งในกลุ่มคนที่ทำการสำรวจ ‘Courtney Grover’ วัย 26 ปีบอกว่า การที่เปลี่ยนงานบ่อยๆ อย่างน้อยก็ช่วยให้เข้าใจและเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ
ขณะที่ผลการศึกษายังบอกด้วยว่า คน Gen Z ถึง 70% ที่ระบุว่า ‘มีความภักดี’ ต่อบริษัทและนายจ้าง เมื่อเวลาว่างพวกเขายังคงมองหาสิ่งที่ดีกว่า ตำแหน่งงานในบริษัทอื่น โดยเป็นการสำรวจตำแหน่งงานทั้งแบบจริงจังและดูเฉยๆ
[ สวัสดิการที่คน Gen Z ชอบ ]
แม้ว่าในการสำรวจนี้จะบอกว่า แนวโน้มคน Gen Z อาจจะเปลี่ยนงานบ่อยกว่าคน Gen อื่นหากตัวงานไม่เป็นอย่างที่คิด หรือกระทบต่อช่วงชีวิตส่วนตัวมากเกินไป
แต่อย่างน้อยพวกเขาจะเลือกพิจารณาจากสวัสดิการอื่นๆ ของบริษัทนั้นด้วย โดยเป็นหนึ่งในเหตุผลประกอบที่จะเลือกทำงานที่นั่น อย่างเช่น
-
สิทธิการดูแลด้านสุขภาพของพนักงานที่ครอบคลุมทั้งทางกายและจิตใจ
-
ความโปร่งใสขององค์กรที่พนักงานสามารถเข้าถึงได้
-
ช่วงเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น ไว้ใจพนักงาน
-
นโยบายการทำงานระยะไกล หรือการทำงานจากที่บ้าน
-
หรืออย่างน้อยๆ ต้องมีนโยบายการทำงานแบบไฮบริด (มาออฟฟิศ+Work From Home)
-
บริษัทต้องสนับสนุนความหลากหลาย ทั้งเชื้อชาติ, เพศ, สีผิว เป็นต้น
นอกจากนี้ บางคนที่ทำการสำรวจบอกว่า การเปลี่ยนงานบ่อยอาจทำให้เหนื่อยกับช่วงเวลาสมัครงาน และปรับตัวกับสังคมใหม่ๆ แต่มันแลกกับการที่พวกเขาได้รู้ใจตัวเองว่าต้องการอะไร ชอบงานแบบไหน และโหยหาที่จะอยู่ในสังคมการทำงานแบบไหน สิ่งเหล่านั้นมันคุ้มค่ามากกว่า
อ้างอิง:
https://www.businessinsider.com/gen-z-happy-job-hopping-quit-without-backup-oliver-wyman-2023-1










