งานวิจัยเกี่ยวกับการทำงานหลายชิ้นต่างมีความเห็นสอดคล้องกันว่า หัวหน้าที่ดีส่งผลต่อการทำงานมากกว่าแค่เรื่องของเงินเดือนที่สูงขึ้น ในหนังสือ Eat Sleep Work Repeat เขียนโดย Bruce Daisley นักเขียน ที่ปรึกษา และอินฟลูเอนเซอร์ด้าน Work Life ชื่อดัง เล่าไว้ว่า วิธีเป็นหัวหน้าที่ดีได้นั้นคำตอบค่อนข้างเรียบง่าย คือ การเป็นคนคอยสนับสนุนให้กำลังใจ คนเราต้องการให้เจ้านายเห็นคุณค่า การชื่นชมและให้กำลังใจช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้ทีมงานได้จริง นักวิจัยทำการศึกษาผู้คนที่ทำงานร่วมกับเจ้านายที่ใจกว้าง พวกเขาพบว่าการยกย่องชื่นชมนั้นได้ผลเสมอ
ในที่ทำงาน ความเชื่อว่าใครบางคนมองเราว่ามีคุณค่ามากสามารถเอาชนะได้แทบทุกสิ่ง ถ้าเราเชื่อว่าหัวหน้ารักเรา (หมายถึงเคารพให้เกียรติมองเห็นคุณค่า) เราจะมีแนวโน้มที่จะรู้สึกมีความสุขกับงานที่เราทำมากขึ้น
ในทางตรงกันข้ามกลุ่มพนักงานที่มีเจ้านายคอยวิจารณ์อยู่เป็นประจำมักจบลงด้วยการทำให้ทีม รู้สึกสับสนหมดสิ้นกำลังใจ เพราะทีมไม่รู้สึกว่าคำติชมในแง่ลบนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่พวกเขามีแนวโน้มมองคำติชมแง่ลบเป็นสิ่งที่ยับยั้งความสำเร็จที่อาจเป็นไปได้ในอนาคต
มีงานวิจัยที่พิสูจน์ว่าการที่หัวหน้าพูดจาสร้างแรงจูงใจให้ทีมงานทำงานให้หนักนั้นและย้ำเตือนว่าค่าจ้างของพวกเขาสมน้ำสมเนื้อนั้นเพียงพอแล้ว และหลังจากนั้น ‘ควรหลีกทาง’ ให้พวกเขาได้ทำงาน หมายความว่า หัวหน้าควรลองหลีกทางให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือถ้าหัวหน้าไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง การทำน้อยลงย่อมถือเป็นเรื่องที่ดีกว่าการเข้ามายุ่ง
เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญด้านความสุขแนะนำว่า “อย่าเข้าไปยุ่งมาก หลักการนี้สำคัญอย่างเหลือเชื่อ อะไรที่ทำให้คนไม่มีความสุขก็แค่หยุดทำมัน”
ผู้เขียนหนังสือ Eat Sleep Work Repeat อธิบายต่อว่า แม้ว่าการหลีกทางให้ลูกน้องทำงานจะเป็นเรื่องน่าพอใจก็ต่อเมื่อหัวหน้าไม่สามารถช่วยงานอะไรได้มาก แต่หากที่ทำงานที่มีหัวหน้าเก่งระดับหัวกะทิ นอกจากจะไม่กีดขวางการทำงานของลูกน้องแล้ว พวกเขายังต้องคอยให้คำแนะนำและให้การสนับสนุนที่มีคุณภาพ ซึ่ง Bruce Daisley บอกว่า นี่คือหลักการที่เขาใช้ประเมินเพื่อแยกหัวหน้าที่ดีออกจากหัวหน้าที่แย่
หลักฐานยืนยันว่าหัวหน้าที่ดีคือ รู้ขั้นตอนของการทำในสิ่งที่พวกเขาคาดหวังให้สมาชิกในทีมทำ และปล่อยให้ทีมได้ทำงาน
โดยทั่วไปแล้วหัวหน้าที่ดีที่สุดคือคนที่เคยผ่านงานที่พวกเขากำลังบริหารจัดการมาก่อน แต่หากไม่เคยผ่านงานนั้นมาก่อนเลย หัวหน้าจะต้องออกจากกรอบของตัวเองไปเพื่อทำความเข้าใจจะช่วยเป็นสะพานเชื่อมให้กับช่องว่างระหว่างหัวหน้ากับทีมได้
โดยถ้าหัวหน้าเข้าใจว่างานทำอย่างไร พวกเขาจะเห็นอกเห็นใจต่อการทำงานแบบยืดหยุ่น หรือกำจัดการประชุมประเภทที่เสียเวลาออกไป เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมการทำงานที่ถูกต้องให้กับทีม ซึ่งหัวหน้าที่ดีจะเข้าใจธรรมชาติของงานที่ทีมงานทำ ความเข้าใจนี้จะนำไปสู่ความเชื่อใจ ไว้วางใจมากยิ่งขึ้น ในทางตรงกันข้ามถ้าหัวหน้าไม่เข้าใจในบทบาทนี้อย่างถ่องแท้ พวกเขาก็อาจจะเข้ามาแทรกแซง
แต่ถ้าหัวหน้าที่ดูแลงานบริหารจัดการไม่เข้าใจสภาพจริงของการทำงาน หรือไม่เข้าใจความกังวลใจของคนทำงาน มีคำแนะนำว่าทางเดียวที่จะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้คือการลองแบ่งเวลาสักอาทิตย์หนึ่งไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับทีมงาน หลายองค์กรตื่นตัวเรื่องนี้บ้างแล้ว เช่น บริษัทอย่างแมคโดนัลด์ หรือเซนส์เบอรี่ ส่งหัวหน้างานเข้าไปที่หน้าร้านปีละหนึ่งครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาคาดหวังให้ทีมแนวหน้าทำ ไม่มีสิ่งใดจะช่วยสร้างความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกผู้อื่นให้กับพนักงานคนอื่นได้เร็วเท่ากับการต้องลงมือทำสิ่งนั้นเอง
สุดท้ายหนังสือเล่มนี้ได้สรุปว่า กฎของการเป็นหัวหน้าที่ดีนั้นชัดเจน คือ การรู้กระบวนการอย่างเข้าอกเข้าใจ และคอยให้การสนับสนุน ถ้าคุณเป็นหัวหน้าที่ดีไม่ได้ ก็จงเป็นหัวหน้าที่คอยให้การสนับสนุน
