บริษัทแม่ของ Google ประกาศแตกหุ้นเป็น 20:1 หวังเพิ่มสภาพคล่อง ดันนักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้มากขึ้น
วันที่ 2 ม.ค. 2565 Alphabet บริษัทแม่ของ Google ประกาศว่า คณะกรรมการของบริษัทได้อนุมัติแผน ‘แตกหุ้น’ (Split Stock) เป็น 20:1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นจะทำให้มีหุ้นจำนวนมากกลับคืนสู่ตลาด
โดยการแตกหุ้นครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากที่หันมาให้ความสนใจกับตลาดหุ้นมากขึ้นตั้งแต่มีการระบาดครั้งใหญ่
Ruth Porat ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Alphabet กล่าวระหว่างแถลงผลประกอบการของบริษัทว่า “เหตุผลของการแตกหุ้นคือทำให้หุ้นของเราเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเราคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่จะทำ”
ทั้งนี้ การแตกหุ้นคือการแบ่งหุ้น 1 หุ้นออกเป็นหลายส่วน ซึ่งทำให้หุ้นมีสภาพคล่องสูงขึ้นจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น และราคาหุ้นที่ลดลง ดึงดูดให้รายย่อยเข้ามาลงทุนหุ้นในบริษัทได้ง่ายมากขึ้น
เพราะราคาหุ้นลดลง ก็สามารถซื้อขายได้คล่องมากขึ้น
และการแตกหุ้นเป็น 20:1 ของ Alphabet นั่นหมายถึง หุ้นแต่ละหุ้นที่มีอยู่ 1 หุ้น จะถูกแบ่งออกเป็น 20 หุ้น ทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมจะมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 19 หุ้น โดยแต่ละหุ้นจะมีมูลค่าถูกลง แต่เมื่อรวมกันแล้วทั้ง 20 หุ้น ก็จะมีมูลค่าเท่ากับ 1 หุ้นเดิมนั่นเอง
โดย Alphabet จะทำการแตกหุ้นทั้ง 3 คลาส ซึ่งหุ้นคลาส A ของ Alphabet (ที่ใช้ชื่อว่า GOOGL) จะมีมูลค่าเหลือประมาณ 138 ดอลลาร์ อิงจากราคาปิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ที่อยู่ที่ 2,752.88 ดอลลาร์ ซึ่งหุ้นของบริษัทไม่ได้มีราคาถูกขนาดนั้นมาตั้งแต่ปี 2005
สำหรับกระบวนการแตกหุ้นจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 และนักลงทุนจะได้รับหุ้นจนครบในวันที่ 15 ก.ค. 2565 และการซื้อขายหุ้นในราคาใหม่จะเริ่มในวันที่ 18 ก.ค. 2565
ทั้งนี้ การแตกหุ้นนั้นไม่ได้รับความนิยมในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่ตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ Apple, Tesla และ Alphabet ก็นำวิธีนี้มาใช้ เพื่อทำให้หุ้นบริษัทตนเองมีราคาเอื้อมถึงได้มากขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อย หลังหุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 65% ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ หลังจาก Alphabet ประกาศแตกหุ้นพร้อมผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 8% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
ที่มา:
https://www.wsj.com/articles/google-parent-alphabet-stock-split-11643761853










