กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ขอความร่วมมือภาครัฐ เอกชน ชาวประมง และประชาชนในพื้นที่ ให้ระมัดระวังการดำเนินการกิจกรรม ในพื้นที่รัศมี 6 กม. ก่อนแม่เต่ามะเฟืองจะขึ้นวางไข่อีกรอบ

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แจ้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ชาวประมง และประชาชนในพื้นที่ ขอความร่วมมือให้ช่วยกันเฝ้าดูแลระมัดระวัง ในการจัดงานหรือกิจกรรมที่ต้องจัดขึ้นแถบชายฝั่ง ในพื้นที่รัศมี 6 กิโลเมตร ห่างจากจุดที่แม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ครั้งแรกในปีนี้ โดยเขตชายฝั่งตั้งแต่บ้านท้ายเหมืองถึงบ้านท่าดินแดง อ.ท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ส่วนในทางทะเลได้กำหนดขยายเขตควบคุม พื้นที่มีสีน้ำทะเลเข้มข้นออกไปในทะเลประมาณอีก 6 กิโลเมตร รวมพื้นที่ประมาณ 82 ตารางกิโลเมตร โดยก่อนหน้านี้ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แม่เต่ามะเฟืองได้ขึ้นมาวางไข่ไปแล้ว จึงทำให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เฝ้าระมัดระวังเป็นรอบที่สอง เนื่องจากแม่เต่ามะเฟืองจะขึ้นวางไข่อีกรอบหลังจากนี้อีกประมาณ 10-15 วัน

เต่ามะเฟือง (Leatherback sea turtle, Dermochelys coriacea) จัดเป็นสัตว์ทะเลหายาก และใกล้สูญพันธุ์ จัดเป็นทรัพยากรร่วมของภูมิภาคและระดับโลก เต่ามะเฟืองเป็นเต่าทะเลที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์สูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับเต่าทะเลที่มีอยู่ 7 ชนิดทั่วโลก จำนวนประชากรพ่อแม่พันธุ์เต่ามะเฟือง ที่มาผสมพันธุ์และวางไข่ในประเทศไทย ลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือเพียงปีละไม่ถึง 10 ตัวในปัจจุบัน

เต่ามะเฟืองถูกยกให้เป็นสัตว์สงวนลำดับที่ 18 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 เป็นเต่าทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดโตเต็มที่ยาว 210 เซนติเมตร หนัก 900 กิโลกรัม กระดองเป็นหนังหนาสีดำมีจุดประสีขาว มีร่องสันนูนตามยาว 7 สัน อาศัยอยู่ในทะเลเปิดกินแมงกะพรุนเป็นอาหารหลัก ในประเทศไทยพบวางไข่เฉพาะบริเวณชายหาดฝั่งตะวันตกของจังหวัดพังงาและภูเก็ต
เต่ามะเฟืองมีลักษณะภายนอกที่แตกต่างจากเต่าทะเลชนิดอื่น โดยเฉพาะเอกลักษณ์ที่ไม่มีเกล็ด ให้เห็นเหมือนเต่าชนิดอื่น มีจุดประสีขาวบนลำตัว และมีสันเป็นแนวยาวจากหน้าถึงหลัง ทำให้ง่ายต่อการจำแนก ไข่เต่ามะเฟืองมีสีขาว ขนาดใหญ่และค่อนข้างกลม แตกต่างจากไข่เป็ดไข่ไก่ นอกจากนี้ยังสามารถระบุว่าเป็นเต่ามะเฟืองโดยใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมได้
หากพบแม่เต่ามะเฟือง ทั้งในทะเลและขึ้นวางไข่ กรุณาโทรแจ้งกรม ทช. ที่ ๐ ๗๖๓๙ ๑๑๒๘









