หลัง foodpanda ทำธุรกิจในไทยมา 13 ปี และเป็นฟู้ดเดลิเวอรี่รายแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดในไทย โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2555 ล่าสุดประกาศยอมถอยโบกมือลา เพราะประเมินตลาดประเทศไทยไม่ใช่พื้นที่ตอบโจทย์ในการสร้างรายได้อีกต่อไป
นั่นทำให้สมรภูมิผู้เล่นในตลาดหลักเริ่มขยับชัดเจนขึ้น ถึงขนาดที่ ‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ให้ความเห็นเกี่ยวกับสภาพตลาดฟู้ดเดลิเวอรีไทยหลังการถอนตัวของ foodpanda ว่า การถอนตัวของ foodpanda ทำให้อุตสาหกรรมฟู้ดเดลิเวอรีของไทยเข้าสู่การแข่งขันแบบ ‘Duopoly’ อย่างชัดเจน
(คำว่า Duopoly ในทางธุรกิจ คือตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ จะมีผู้ขายหลักเพียง 2 ราย ที่ครองส่วนแบ่งตลาด และแข่งขันกันโดยตรงในบริการชนิดเดียวกัน)
[ เปิดตัวเลขส่วนแบ่งตลาด-กำไร แข่งเดือด ]
ผู้บริหาร LINE MAN Wongnai บอกด้วยว่า เมื่อไปดู ข้อมูลของ Redseer ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 LINE MAN ครองส่วนแบ่งตลาดจากจำนวนธุรกรรมที่ 44% ขณะที่ Foodpanda มีส่วนแบ่งประมาณ 5% แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในจำนวนผู้เล่น แต่โครงสร้างตลาดยังคงมีเสถียรภาพ และการแข่งขันยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเดิม
สถานการณ์นี้มองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนจาก ‘สงครามราคา’ สู่ ‘สงครามคุณภาพ’ โดยผู้เล่นที่เหลือสามารถจัดสมดุลระหว่างคุณภาพ บริการ และการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น เปิดโอกาสในการทำกำไรอย่างยั่งยืน และมีทรัพยากรเพียงพอในการลงทุนพัฒนาบริการใหม่
ขณะที่มุมมองของ Grab ประเทศไทย ‘จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย มองว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตอกย้ำว่ากลยุทธ์ที่แกร็บได้ปรับและดำเนินการมาในช่วง 2-3 ปีหลังนั้นมาถูกทางแล้ว ให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลในวงจรธุรกิจเป็นอันดับแรก ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
“Grab ประเทศไทยเป็นผู้เล่นเพียงรายเดียวที่สามารถทำกำไรต่อเนื่องมาเป็นปีที่สอง และสามารถครองความนิยมอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาดของ GrabFood ที่มีถึง 46% อ้างอิงจากรายงานของ Momentum Works ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยชั้นนำในภูมิภาคจากในยุคแรกที่เริ่มด้วยการเผาเงินผ่านการให้ส่วนลดมากๆ เพื่อสร้างตลาด ซึ่งถือเป็นการสร้างอุปสงค์เทียม (Fake demand) มาเป็นการโฟกัสที่คุณภาพและมาตรฐานของการให้บริการเป็นหัวใจสำคัญ”
ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดฟู้ดเดลิเวอรีในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคและบริบททางการแข่งขันที่เปลี่ยนไป
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงของผู้เล่นในตลาดอยู่เป็นระยะ แต่ในแง่ของโมเดลธุรกิจ ฟู้ดเดลิเวอรีถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะในแง่ของการสร้าง “สมดุล” ให้เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจ เพราะในอีโคซิสเต็มของบริการฟู้ดเดลิเวอรีนี้มีทั้งลูกค้า คนขับ ผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมถึงแพลตฟอร์ม
[ ผลกระทบหลังจากนี้ ]
ผู้บริหาร LINE MAN Wongnai ‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ประเมินว่าในด้านของผู้บริโภคได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากมีตัวเลือกบริการเท่าเดิม โดยเฉพาะ LINE MAN ที่ให้บริการครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศอยู่แล้ว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแพลตฟอร์มได้ทันที โดยไม่เสียโอกาสในการเข้าถึงร้านอาหารท้องถิ่น
ส่วน ‘จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม’ ผู้บริหารของ Grab ประเทศไทย กล่าวว่า เราประเมินและเตรียมแผนไว้แล้วว่า โมเดลธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะในแง่ของการสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจ เพราะในอีโคซิสเต็มของบริการฟู้ดเดลิเวอรีนี้มีทั้งลูกค้า คนขับ ผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมถึงแพลตฟอร์ม การบริหารธุรกิจให้ทุกฝ่ายพึงพอใจและได้รับประโยชน์ร่วมกันมากที่สุดถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่แพลตฟอร์มต้องเรียนรู้และปรับกลยุทธ์กันตลอดเวลา










