
วันที่ 3 พ.ย. เวลา 16.30 น. ที่อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง

พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความขอบคุณที่ รมว.พาณิชย์ สหรัฐอเมริกา นำคณะนักธุรกิจจากบริษัทชั้นนำร่วมเดินทางมาไทยครั้งนี้ โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะในการขยายความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งสหรัฐนับเป็นนักลงทุนที่สำคัญของไทยและมีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยมายาวนาน ทั้งนี้รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนของบริษัทสหรัฐในไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อากาศยานและอวกาศ ดิจิทัล เทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมการแพทย์

ด้านนายวิลเบอร์ รอสส์ แสดงความชื่นชมการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ที่มีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการพัฒนาภูมิภาคอาเซียน พร้อมกล่าวว่าการมาเยือนครั้งนี้นำภาคเอกชนจากสาขาต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของไทยมาร่วมประชุม Indo Business Forum ที่หอการค้าไทยและหอการค้าสหรัฐร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน เชื่อมั่นว่าการประชุมครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจสำหรับภาคเอกชน
ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยมีนโยบายส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุนของภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างชาติ รวมทั้งได้พัฒนากฎระเบียบต่างๆ และผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง จึงขอเชิญชวนภาคเอกชนสหรัฐฯ มาร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคของอาเซียนด้วย

สำหรับประเด็นการที่สหรัฐประกาศพักสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ที่ให้กับสินค้าไทย 573 รายการ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่ารัฐบาลห่วงกังวลเรื่องผลกระทบต่อภาคเอกชนและสาธารณชน แต่เข้าใจดีเรื่องกติกาของสหรัฐอย่างไรก็ตามในฐานะมิตรอันใกล้ชิด ขอให้สหรัฐพิจารณาทบทวนอีกครั้ง ซึ่ง รมว.พาณิชย์ สหรัฐ ก็พร้อมเปิดให้มีการเจรจาทบทวนระหว่างกันก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ตามการหารือในครั้งนี้ไม่มีการพูดถึงเรื่องการที่สหรัฐอเมริกาขอให้ไทยทบทวนการแบนสารเคมีทางการเกษตร โดยเฉพาะไกลโฟเซต และเรื่องการให้ไทยนำเข้าเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง









