หลังบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ธุรกิจพลังงานในมือของมหาเศรษฐีอันดับ 5 ของไทยอย่าง ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ ประกาศเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุด GULF ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 แห่ง INTUCH เรียบร้อยแล้ว ด้วยสัดส่วนหุ้น 42.25% มากกว่าผู้ถือหุ้นใหญ่รายเดิมอย่าง Singtel ที่ถือครองหุ้นอยู่ในสัดส่วน 21%
โดยเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา GULF แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า หลังจากที่บริษัทได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) ของ INTUCH โดยมีกำหนดระยะเวลารับซื้อทั้งสิ้น 25 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. – 4 ส.ค. 2564 นั้น
ผลปรากฏว่า GULF สามารถซื้อหุ้นไปได้ทั้งหมด 747,874,638 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 23.32% ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนหุ้นเดิมที่ GULF ถืออยู่ 606,878,314 ล้านหุ้น หรือ 18.93% ก็จะทำให้ GULF ถือครองหุ้นเป็นสัดส่วนทั้งสิ้น 42.25% ขึ้นแท่นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ INTUCH
และถ้าหากคิดจากราคารับซื้อที่ GULF เคยประกาศไว้ในเดือน เม.ย. ว่าจะรับซื้อในราคาหุ้นละ 65 บาท ก็จะคิดเป็นมูลค่าการซื้อขายที่ประมาณ 4.86 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ถ้าย้อนกลับไปในเดือน เม.ย. ที่ GULF ประกาศเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดนั้น GULF ได้ทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC (ซึ่งก็คือ AIS) ที่ INTUCH ถือหุ้นอยู่ 23.2% ตามหลักเกณฑ์ Chain Principle ด้วย
ก่อนที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Singtel จแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ว่าบริษัทได้ปฏิเสธคำเสนอซื้อหุ้น AIS ดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า “บริษัทเชื่อว่าคำเสนอซื้อ AIS ของ GULF นั้น มีการประเมินมูลค่ายุติธรรม (fair value) ของ AIS ต่ำกว่าความเป็นจริงเกินไป”
ที่มา:
https://cms.workpointtoday.com/singtel-long-term-outlook-intuch/










