กระทรวงสาธารณสุขเตรียมการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมให้การสนับสนุนด้านเวชภัณฑ์และอื่นๆ
วันที่ 5 ธ.ค. 2563 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด-19 เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมพร้อม สำหรับการระบาดที่เพิ่มขึ้น โดยจะส่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ไปเคาะประตูบ้านแจ้งข่าวและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง พร้อมกับคุมเข้มสถานประกอบการ ให้ทำตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
นพ.เกียรติภูมิ เปิดเผยว่า โรคโควิด-19 ยังมีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ไทยเราต้องเตรียมความพร้อมรับมือ ซึ่งขณะนี้เราพบผู้ป่วยโควิด 19 ที่ลักลอบข้ามพรมแดนธรรมชาติจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แต่สามารถนำเข้ารับการกักตัว ดูแลรักษา ติดตามผู้สัมผัสได้ครบ พร้อมกำชับให้เข้มข้นมาตรการป้องกันควบคุมโรคพื้นที่ชายแดนรวมทั้งให้กรมควบคุมโรควิเคราะห์รูปแบบความเสี่ยงอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อป้องกันโอกาสการนำเชื้อเข้าประเทศ
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด 19 พร้อมปฎิบัติตามข้อสั่งการ ดังนี้
- ติดตามและประเมินสถานการณ์ภายในจังหวัด
- เตรียมความพร้อมโรงพยาบาล เวชภัณฑ์ ห้องปฏิบัติการ และบุคลากรด้านการรักษาพยาบาล
- เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคปอดบวมและผู้ป่วยในคลินิกโรคทางเดินหายใจ (ARI) ตามเกณฑ์ของกองระบาดวิทยาอย่างเคร่งครัด
- ส่ง อสม.เคาะประตูบ้านแจ้งข่าวประชาชนและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชนพร้อมขอความร่วมมือ
- เปิดสายด่วน (Call Center)ให้กลุ่มเสี่ยงรายงานตัว
- แนะนำมาตรการต่างๆ ต่อประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด รวมทั้งกำกับให้สถานประกอบการในพื้นที่ โดยเฉพาะสถานบันเทิง ต้องให้ความรู้และให้กำลังใจ เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคได้ตามมาตรฐาน
ปลัดสธ. ขอให้ทั้งประชาชนและบุคลากร อย่าประมาท การ์ดอย่าตก โดยย้ำว่าพร้อมสนับสนุนการทำงานทุกๆ ด้านให้แก่จังหวัด ทั้งทางด้านเวชภัณฑ์ เช่น หน้ากากอนามัย ชุด PPE ยา ฯลฯ หากสำรวจแล้วมีไม่เพียงพอ ให้ขอรับการสนับสนุนที่กองสาธารณสุขฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง










