รู้กันมานานแล้วว่าการจะได้ครอบครองกระเป๋า Hermès รุ่น Birkin ยากเสียยิ่งกว่ายาก ความที่กระเป๋ารุ่นนี้ถูกวางสถานะพิเศษของผลิตภัณฑ์นี้ว่าเป็นไอคอนแห่งแฟชั่นมายาวนาน การจะได้มาเป็นเจ้าของ ลูกค้าจะต้องแสดงความ Loyalty กับแบรนด์ Hermès ด้วยการซื้อสินค้าอื่นๆ แบบสะสมยอดและจะมีโอกาสได้รับการเสนอให้ซื้อกระเป๋ารุ่นดังที่แสดงสถานะขั้นสุดนี้ได้ และยังต้องขึ้นกับจังหวะและโชคชะตาเข้าร่วมด้วยเช่นกัน จนทำให้รู้ว่าแบรนด์ค่อนข้างเลือกลูกค้า เพราะกระเป๋ามีดีมานด์สูงนั่นเอง
ในต่างประเทศถึงกับมีอาชีพใหม่เป็นตัวแทนไล่ล่าหากระเป๋ารุ่นดังให้ลูกค้าเช่นกัน
แต่แล้วก็ถึงจุดที่มีคนลุกขึ้นมาฟ้องแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ผู้บริโภค 2 คน ได้ทำการยื่นฟ้อง Hermès ต่อรัฐบาลกลางในรัฐแคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ข้อหาแบรนด์อนุญาตให้เฉพาะลูกค้าที่มีประวัติการซื้อเพียพอกับบริษัทเท่านั้นที่จะซื้อกระเป๋า Birkin อันโด่งดังของบริษัทได้ ซึ่งคำฟ้องมองว่าพฤติการณ์นี้ Hermès เข้าข่ายกำลังละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด โดยผูกการขายสินค้าชิ้นหนึ่งกับการซื้อสินค้าอื่นๆ โดยมีการบรรยายว่า พนักงานขายของแบรนด์ได้พยายามผลักดันให้ลูกค้าต้องซื้อรองเท้า ผ้าพันคอ เครื่องประดับ และสินค้าอื่นๆ เพื่อรับ ‘โอกาส’ ในการซื้อกระเป๋า Birkin
ในคำฟ้องระบุว่า ผู้บริโภคไม่สามารถซื้อ Birkin ทางออนไลน์จาก Hermès ได้ กระเป๋าหนังงานฝีมือสุดประณีต และมีราคาแพงลิบนี้ก็ไม่วางจำหน่ายในร้านค้าปลีกของบริษัท แต่จะมีสิทธิพิเศษให้ผู้บริโภคที่ถูกระบุว่า เป็นคนที่สมควรจะซื้อได้นั้น มีสิทธิ์ได้เห็นกระเป๋า Birkin ในห้องส่วนตัว (ในวงการรู้กันดีเรียกว่าห้องลับ) โดยพนักงานของ Hermès ไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขายกระเป๋า Birkin และได้รับคำสั่งให้บังคับผู้บริโภคให้ซื้อผลิตภัณฑ์เสริม
ในคดีดังกล่าว ผู้ร้องระบุว่ากำลังเรียกร้องเพื่อขอสถานะการดำเนินคดีฟ้องแบบกลุ่ม เพื่อเป็นตัวแทนของผู้บริโภคในสหรัฐฯ หลายพันคนที่ซื้อสินค้า Hermès หรือถูกขอให้ซื้อสินค้าอื่นๆ เพื่อมีสิทธิ์ได้รับโอกาสไปซื้อ Birkin
ทั้งนี้ Hermès มีร้านค้า 43 แห่ง ในสหรัฐอเมริกา และผู้ร้องได้เรียกร้องค่าเสียหายทางการเงิน รวมทั้งขอคำสั่งศาลห้ามการกระทำที่ต่อต้านการแข่งขันของ Hermès










